วันพฤหัสบดีที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2552

Perfect Group


กลุ่มของประกันชีวิตที่ผมได้เข้าไปร่วมนั้นชื่อว่า Perfect Group ซึ่งเป็นตัวแทนในเครือของ AACP ครับ คงงงว่า Perfect Group คืออะไร Perfect Group นั้นเป็นระบบที่ (ได้ยินว่า) คิดขึ้นมาโดยคุณทรงพล พรหมบุตร เพื่อทำให้การขายประกันชีวิตตามที่บริษัทแม่วางไว้ทำได้ง่ายขึ้นและเติบโตได้เร็วขึ้น .... น่าน งง แน่ๆ

เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น ก่อนอื่นคงต้องเข้าใจระบบการขายประกันทั่วๆไปก่อน งานขายประกันชีวิตนั้นก็เหมือนงานขายสินค้าประเภทอื่นๆครับ เพียงแต่ว่ามีการควบคุมที่มากกว่า นั่นคือแผนประกันแต่ละแผนก็ต้องขออนุญาต ขณะเดียวกันพนักงานขายก็ต้องผ่านการสอบให้ได้ใบอนุญาตด้วย แต่อย่างไรก็ตามรายได้ของพนักงานขายก็ได้มาจาก Commision หรือส่วนแบ่งจากยอดขายเช่นเดียวกับการขายสินค้าอย่างอื่นเช่นกัน

เมื่อสินค้าขยายตัวไปในวงกว้างมากขึ้น (ประกันเป็นสินค้าที่ขายกันทั่วโลกนะครับ อย่างเช่น AIA ในเครือ AIG หรือ AACP ในเครือAliance ก็เป็นบริษัทประกันที่ขายอยู่ทั่วโลก) ทำให้ต้องมีพนักงานขายเพิ่มขึ้น บริษัทประกันต่างๆจึงเริ่มมีการคิดระบบจ่าย Commission ที่ซับซ้อนมากขึ้น โดยไม่ได้อิงเฉพาะยอดขายของพนักงานผู้นั้นเพียงอย่างเดียว หากแต่อิงตามยอดที่พนักงานนั้นสร้างขึ้น ผ่านการสร้างพนักขายรุ่นใหม่ หรือการดึงพนักงานคนสำคัญจากบริษัทคู่แข่งเป็นตัน

เมื่อกติกาเปลี่ยนไป นักขายรุ่นใหม่ ซึ่งแม้ว่าตัวเองจะขายเก่งสู้นักขายบางคนไม่ได้ ก็เริ่มคิดระบบและกระบวนการในการได้รายได้เพิ่มขึ้น จนสามารถชนะนักขายรุ่นเก่าที่ขายเก่งมากๆได้ หนึ่งในนั้นก็คือ Perfect Group ของคุณทรงพล นั่นเงอ

ดังนั้น ถ้าถามว่า Perfect Group คืออะไร ผมก็คงจะอธิบายว่ามันก็คือชื่อบริษัทที่ตั้งขึ้นของพนักงานขายท่านหนึ่ง (คุณทรงพล) ซึ่งเริ่มมีรายได้เยอะขึ้นจากการคิดระบบงานขายขึ้นมา จนทำให้ต้องตั้งบริษัทเพื่อประโยชน์ในแง่ภาษี คำถามต่อมาก็คงเกิดขึ้นทันทีว่าระบบดังกล่าวคืออะไร

ผมขอสรุปเอาเอง (เพราะพยายามถามหลายคนใน Perfect Group แต่ก็ตอบไม่ได้เต็มปากเต็มคำ) แบบนี้ครับ

Perfect Group นั้นประยุกต์วิธีการในระบบ MLM อย่าง Amway และ Gifferine มาใช้ครับ เนื่องจากความเป็นจริงที่ว่ารายได้ของ Perfect Group จะเพิ่มขึ้นเมื่อมีผลงานยอดการขายของพนักงานขายที่อยู่ในกลุ่มเพิ่มขึ้น คิดง่ายๆก็คือ ยิ่งสร้าง Sale ขึ้นเยอะๆ ก็ย่อมทำให้รายได้เพิ่มขึ้นตามจำนวน Sale แต่การเพิ่มจำนวน Sale เพื่อมาขายประกันในทุกวันนี้ทำไม่ได้ง่ายๆครับ เพราะคนส่วนใหญ่เกลียดงานขาย โดยเฉพาะการขายประกัน แม้จะมีการบอกกล่าวว่ารายได้ดีมากๆก็ตาม แต่รายได้งานขายก็มีความไม่แน่นอน เพราะคิดจากยอดขาย นั่นทำให้การเพิ่มจำนวน Sale นั้นทำไม่ได้ง่ายๆ

Perfect Group แก้ปัญหาดังกล่าวโดย 2 แนวทางครับ
(1) เปลี่ยนจากการหาคนขายประกันมาเป็นการหาผู้บริหารการตลาดครับ แต่การเปลี่ยนนี้ไม่ได้เปลี่ยนแต่ชื่อครับ เปลี่ยนลักษณะงานด้วย นั่นคือ แทนที่จะวิ่งไปขายประกัน ก็เปลี่ยนมาเป็นคนหาพนักงานใหม่แทน ซึ่งด้วยระบบแบบนี้ทำให้คนที่แอนตี้การเป็นพนักงานขายส่วนหนึ่ง เริ่มเข้ามาทดลองทำงานกับ Perfect Group ครับ
(2) การทำตามแนวทางที่ 1 อย่างเดียว คงทำได้แค่ช่วงหนึ่งครับ แต่ในระยะยาวคนย่อมมองว่าเป็นการหลอกลวง เหมือนแชร์ลูกโช่ เพราะเราต้องหารายได้ใหม่ๆจากคนใหม่เพิ่มไปเรื่อยๆ ดังนั้น จึงมีแนวทางที่ 2 ขึ้นมา Support นั่นคือการ Training หรือการจัดการอบรมทั้งทางทฤษฏีและปฏิบัติ ทั้งในเรื่องความรู้ของงานประกัน ความรู้งานขาย หรือลักษณะการเป็นผู้นำ ซึ่งการอบรมนี้เองจะทำให้ผู้ที่เข้าร่วม Perfect Group เริ่มคิด + กับงานขายประกันมากขึ้น (แม้จะไม่ 100%) อันจะนำไปสู่ยอดขายของเขานั่นเอง

ผลของระบบดังกล่าวก็คือ Perfect Group มีการเติบโตของพนักงาน (Sale ใหม่) เพิ่มขึ้นเป็นอันดับ 1 ในบรรดาตัวแทนประกันของ AACP และมียอดขายติด 1 ใน 10 ของ AACP ทั้งๆที่เพิ่งเข้ามาขายให้กับ AACP เพียง 2 ปี

ด้วยหลักการแบบนี้แหละครับที่ Kiyosaki บอกว่ามันคือความลับของ 90/10 นั่นก็คือการเกิดรายได้จากระบบที่สร้างขึ้น ไม่ใช่จากเงินเดือนครับ ^-^

14 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เพื่อนผมเข้าไปทำงาน แล้ว เขาบอกว่าขึ้นตำแหน่ง AL อะไร ประมาณ นั้นแล้ว ยังไม่ได้เงินประจำเลย แถม ยังบอกอีกว่า ไม่มียอด ก็จะไม่มีตังด้วย ครับ ช่วยตอบหน่อย ว่ามันจิงหรือป่าว ครับ

Unknown กล่าวว่า...

ที่เขียนในบล็อกว่า "จะทำให้ผู้ที่เข้าร่วม Perfect Group เริ่มคิด + กับงานขายประกันมากขึ้น (แม้จะไม่ 100%) อันจะนำไปสู่ยอดขายของเขานั่นเอง" ก็แสดงว่ายังไงก็ต้องขายใช่ไหมครับ

PROBAK กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ สำหรับ คุณ LENG และ อีกท่านที่ไม่ระบุชื่อ ทึ่เข้ามาอ่านและแสดงความคิดเห็นไว้

ผมว่าประเด็นคำถามของทั้ง 2 ท่าน คล้ายกัน ซึ่งคำตอบก็คือ งานประกันชีวิตที่เขียนถึงเป็นงานขายครับ ดังนั้นรายได้หลักต้องขื้นอยู่กับการขายครับ

บริษัทประกันส่วนใหญ่จะไม่เรียกตัวแทนประกันว่าเป็น Sale แต่หนีไปใช้คำว่า AL หรือ Agency Leader โดยให้เหตุผลว่าตัวแทนประกันต่างกับ Sale โดยทั่วไป คือต้องมีความรู้พื้นฐานเรื่องประกันชีวิตพอสมควร จนสามารถสอบผ่านและได้ใบอนุญาตมาครับ

แต่เหตุผลแฝงอีกอันหนึ่งก็คือ คำว่า Sale หรือพนักงานขายนั้นมีความหมายในแง่ลบสำหรับคนทั่วไปครับ ดังนั้น เพื่อให้มีคนทั่วไปอยากเข้ามาทำมากขึ้นจึงเรียกตำแหน่งนี้ว่า AL และแจ้งว่าเทียบเท่า Manager

เพิ่มเติมอีกหน่อยเกี่ยวกับตำแหน่งในงานประกันนั้น ถูกคิดค้นด้วยการตลาดแบบ MLM ทำให้มีหลายระดับ หลายชื่อเรียกกันครับ โดยการผ่านแต่ละระดับนั้น จะมีเกณฑ์กำหนด ซึ่งโดยทั่วไปก็จะไม่พ้นเรื่องของยอด และลูกทีมครับ

ส่วนที่ว่างานใน Perfect Group ต้องขายหรือไม่ แหม ถ้าตอบอย่างคนทั่วไปก็ต้องบอกว่าใช่ครับ ต้องขาย แต่ถ้าตอบตามหลักการของ Perfect Group (หรือกลุ่มอื่นๆ) ก็คือไม่ต้องขายก็ได้ครับ แต่อย่าลืมว่ารายได้หลักของตัวแทนประกันมาจากงานขาย ดังนั้นถ้าไม่ขายก็ไม่ได้ค่า Commission หลักครับ แต่ทางกลุ่มมักมีการสร้างที่มาของรายได้อื่นๆอีก ซึ่งก็มักอิงมาจากผลงานขายเก่าๆและผลงานของลูกทีมครับ สรุปคือ ในทางทฤษฏี ไม่ขายก็ได้ครับ แต่รายได้อาจจะน้อย เพราะได้มาจากผลงานเก่าๆอย่างเดียว และถ้าใครมีผลงานเก่า (เดิมเคยขายได้) ก็คงไม่มีทางที่จะไม่ขายต่อใช่ไหมครับ .... นี่แหละงานขายในวงการประกันครับ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ผมเข้าอบรมมา 2-3 วันแล้วกำลังตัดสินใจว่าจะเดินต่อหรือไม่โดยผมมีคำถามมาถามดังนี้
1.เมื่อผมผ่านการขายที่ 25000 ผมผ่านสเต๊ปแรกใช่ใหม
2.เมื่อผมผ่านการบริหารทีมงามครบ 100000 ผมจะผ่านทดลองงานใช่ไหม
3. เมื่อผมผ่านทดลองงานแล้ว ผมได้เซ็นสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรไหม (เพื่อรับ 18000 ทุกเดือน)เหมือนสัญญาการจ้างงานทั่วไป
4. หลังจากทดลองงานผ่านแล้ว ผมต้องรักษายอดขายทุกเดือนไหม (ยอดขายของตัวเอง )
5. ลักษณะงานที่ทำอยู่คือ การบริหารทีมงานในลักษณะลูกโซ่ ถูกต้องไหมครับ
6. คนที่เดินเข้าอบรมทั้งหมดคือตัวแทนขายที่จะต้องมาต่อยอดจากรุ่นก่อน ๆ ถูกต้องไหม
ผมขอความชัดเจนนะครับ
ขอบคุณครับ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ถึงคุณทรงพล
ขอถามคุณหน่อยว่าทำไมคุณชอบใช้ลูกไม้หลอกคนไทยด้วยกัน
ตั้งแต่ไทยประกันชีวิตแล้ว
รู้ไหมว่าคุณทำให้คนต้องเสียเวลา เสียความรู้สึก เสียโอกาส เสียเงิน เสียรายได้ เสียรู้ เสียหน้าไปเท่าไหร่แล้ว
ถ้าคุณแน่จริงคุณควรตรงไปตรงมามากกว่านี้
ไม่ใช่เอาผลประโยชน์มาล่อ แล้วให้ข้อมูลที่คลุมเคลือ
เพื่อให้คนเข้ามาทำ(เหมือนโง่มาติดกับดัก)
ขอบอกว่าวิธีที่คุณทำอยู่มันจะทำได้ไม่ยั่งยืนหรอก และยิ่งทำให้คนเกลียดประกันมากขึ้น
และถ้าคุณไม่เลิกทำตัวอย่างนี้ สักวันคุณต้องได้รับผลกรรมที่ย้อนกลับเข้าหาตัวคุณไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
หวังว่าคุณคงจะ คิด(ดี)ใหม่ ทำ(ดี)ใหม่ ได้สักวัน.

PROBAK กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ สำหรับความคิดเห็น ของอีก 2 ท่านที่ไม่ได้ระบุชื่อ

สำหรับท่านแรก ถามเข้ามานานแล้ว แต่ผมไม่ได้ตอบทันที เพราะเห็นว่าคำถามส่วนใหญ่เป็นคำถามเชิงรายละเอียดครับ ผมว่าควรจะต้องถามทางบริษัทเค้าเองครับ ถามให้ชัดเจน และมาวิเคราะห์บนหลักการของเหตุผลครับ ไม่มีงานไหนที่ได้เงินมาฟรีๆแน่นอน คุณต้องสร้างผลประโยชน์ให้บริษัทก่อน บริษัืทจึงเอารายได้ดังกล่าวมาจ่ายตอบแทนให้คุณได้ ผมไม่ได้บอกว่างานดังกล่าวดีหรือไม่ดีนะครับ แต่ขึ้นกับความถนัดส่วนตัวของแต่ละบุคคล ผมเห็นบางคนสร้างรายได้มากมายจากงานนี้ ขณะที่บางคนก็ต้องล้มเหลวไปครับ ทั้งๆที่เป็นงานเดียวกัน ผมแนะนำว่าลองอ่านบทความทั้งหมดอีกครั้งครับก่อนตัดสินใจน่าจะช่วยได้มากครับ

สำหรับท่านที่ 2 ผมไม่ใช่คุณทรงพลครับ และก็ไม่คิดว่าคุณทรงพลจะมานั่งอ่าน Blog เล็กๆอย่างนี้ครับ สิ่งหนึ่งที่ผมไม่ชอบเลยก็คือการเขียนในลักษณะมองด้านเดียวครับ ผมไม่รู้จักคุณทรงพลเป็นการส่วนตัว และไม่เคยคุยด้วยครับ แต่เท่าที่เคยได้ยินมาผมชอบในแง่ที่แกสามารถสร้างตัวเองให้เป็นอิสระทางด้านการเงินได้ครับ ส่วนเรื่องการหลอกลวงหรือใช้ลูกไม้หรือไม่ผมไม่มีข้อมูลครับ แต่พูดอย่างเป็นกลาง ผมมีความเห็นดังนี้

1. สำหรับในส่วนงานประกันชีวิต ไม่ถือว่าเป็นการหลอกลวงแน่นอน เพราะเป็นงานที่มีสินค้าขายได้จริง นั่นคือ กรมธรรม์ประกันชีวิต ถ้าเป็นงานหลอกลวงอย่างบริษัท MLM หลายที่ ที่อ่านแล้วอ่านอีก ถามแล้วถามอีกก็ยังไม่รู้ว่าขายอะไร มีแต่หาสมาชิกเพิ่ม แบบนั้นละน่ากลัว ดังนั้น ในความคิดเห็นส่วนตัว ผมว่านี่ไม่ใช่ MLM เชิงหลอกลวง แต่เป็นการใช้ประกันชีวิต ที่เสริมด้วย MLM ซึ่งในส่วนตัวคิดว่ากระแสดังกล่าวยังไปได้อีกพอสมควร โดยเฉพาะในช่วงภาวะเศรษฐกิจที่ทุกคนต้องการรายได้เสริม อีกทั้งตลาดประกันชีิวิตของไทยยังเหลืออีกมากมายครับ (แต่ผมก็ยังไม่เคยขายใครเลย เฮ้อ คิดแล้วก็กลุ้ม)

2. ความคิดเห็นส่วนตัวอีกนั่นแหละ เท่าที่ผมศึกษาดูประวัติของคุณทรงพล แกเป็นนักเชิญชวนที่เก่งครับ ซึ่งผมเชื่อว่าบางครั้งคำพูดอาจจะต้องเว่อๆหน่อย จนทำให้เกิดความเข้าใจผิด หรือความคาดหวังผิดๆได้โดยง่าย เช่น ถ้าผมพูดว่างานดังกล่าวทำให้คนส่วนใหญ่มีรายได้ถึงเดือนละเกิน 1 แสนบาท ฟังแล้วเชื่อว่าหลายคนคงอยากทำงานนี้ครับ แต่ผมคงต้องพูดต่อว่า "ถ้าคุณตั้งใจในการขายจริง" แบบนี้ก็อาจกลายเป็นเรื่อง 2 แง่ 2 ง่ามที่ไม่หลอกลวงได้ครับ

3. ผมว่าเมืองไทยตอนนี้มีความขัดแย้งกันมากแล้ว โดยส่วนตัวผมว่าเกิดจากนิสัยคนไทยที่มองอะไรใกล้ๆตัวเกินไปครับ (ผมเองก็เป็นครับ ฮ่า ฮา) ผมว่าถ้าเราลองถอยหลังมองอะไรให้กว้างขึ้้น ก็จะพบว่าไม่มีอะไรที่เป็นสีดำหมด หรือสีขาวหมดครับ สิ่งไหนที่ดีก็ควรจดจำ สิ่งไหนไม่ดีก็ไม่ควรจำไว้เป็นบทเรียนแก้ไข คนทำดีก็จะได้ดี และคนทำไม่ดีก็จะได้สิ่งไม่ดีเองครับ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

aacp + perfect group ชอบโทรมาหลอกให้ไปสัมภาษณ์งาน โดยบอกว่าเป็นธุรกิจเกี่ยวกับการดูแลการลงทุนให้กับ CP ที้แท้หลอกให้ไปทำงานขายประกัน....เอางี้ถ้าเจ๋งจริงทำไมไม่บอกตั้งแต่แรกเลยล่ะว่า ให้มาทำเป็นพนักงานขายประกันด้วยกัน จะดูจริงใจกว่าที่หลอกให้ไปนั่งฟังการโน้มน้าวโดยพวกจิตวิทยาสั่วๆ ถ้าคนที่อ่อนต่อโลกหน่อย ก็จะเพ้อฝันตามไปด้วย และตกเป็นเหยื่อในที่สุด

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ที่ทางบริษัทบอกว่าให้ไปทำตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการนี้..คงไม่ต้องทำยอดหรือขายประกันใช่ไหมคะ
เห็นเขาบอกว่าให้ไปเช็คเอกสารอะจริงหรือเปล่า

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ที่บริษัทบอกว่าให้ไปทำตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการ ไม่จริงเลยเขาให้เราไปขายประกันและต้องทำยอดด้วย ไม่มีเงินเดือนประจำให้ ไม่มีอะไรให้เลยนอกจากขายประกัน ถ้าขายได้ก็จะได้ค่าคอมแต่ก้ไม่เยอะตามที่เขาว่า
พอทำยอดตามเป้าที่เขากำหนด (50000)ก็เข้ามาที่ทำงานทุกวัน ยกเว้นเสาร์อาทิตย์ เพื่อจะโทรนัดคนอื่นมาเริ่มงาน(ต้องโกหกด้วยเวลาโทร) ส่วนใหญ่หัวหน้าจะให้เงินบ้างเล็กน้อยแต่หัวหน้าหน่วยงาน perfect 100 ไม่ให้เงิน พูดแล้วไม่ทำจริง ลอกใช้เรา

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

Ayudhya Allianz Cp
Perfect Group
สวัสดีครับ
ผมทำงานที่ perfect Group ได้ปีนึงแล้ว
ถามว่า มัน ต้อง รักษายอด หรือเปล่าหรอครับ
ผมต้องถามว่าตำแหน่งที่เชิญมาสัมภาษณ์ นั้น
เขาเชิญคุณมาในตำแหน่งไหน ตัวแทนประกันชีวิต
หรือ ผู้ช่วยผู้จัดการ หรือ AL
-ตัวแทนประกันชีวิต
ใช่ครับ ต้องขายประกัน รายได้จะมาจากค่าคอมมิชชั่น
-ผู้ช่วยผู้จัดการ PAL (ผ่านโปรของบริษัท)
ไม่จำป็นต้องขาย แต่จะขายก็ขายได้ เพราะคุณจะได้ ค่าคอมมิชชั่น แต่เป้าหมายหลักของ
งานของคุณจะเป็นการสร้างบุคลากร ที่อยากจะเป็น
ตัวแทนประกันชีวิตหรือผู้ช่วยผู้จัดการ คือ สร้างให้เป็นผู้บริหาร รายได้มาจาก ค่าคอมมิชชั่น+ค่าบริหาร+โบนัส
เดือน/ไตรมาส/ปี ส่วนในตำแหน่งนี้ จะได้โบนัส 10%
-AL หรือ Agency Leader
ตำแหน่งคือ คล้ายๆกับ ผู้ช่วยผู้จัดการ แต่ จะมีการทำงานที่มากขึ้น เพราะคนที่จะขึ้นในตำแหน่งนี้ได้ ต้องมีคุณสมบัติเพียงพอ ในการทำงาน
รายได้มาจาก ค่าบริหาร+โบนัส เดือน/ไตรมาส/ปี
โบนัสอยู่ที่ 17.5% สมมุติ ถ้าขายประกันมา 1แสน
แผน 20/20 คุณจะได้ค่าคอม+โบนัส 17.5
ได้ค่าคอม เกินครึ่งกว่า จำนวนเงินที่เก็บมา
บริษัท aacp มี 3 หุ้นส่วนคือ
1.ธนาคาร กรุงศรีอยุธยา
2.บริษัท Allianz (หลายท่านคงไม่รู้จัก) คือบริษัท ประกันชีวิตของเยอรมัน
เป็นบริษัท ติดอันดับบริษัทที่ทำผลกำไรติดอันดับโลก
3.เครือเจริญโภคภัณฑ์ CP (ไม่แปลกเลยที่จะเป็นส่วน นึงของ CP)
อ่ะครับมาถึง ปัญหาสำคัญ ??
ทำไมต้องขายประกันในเมื่อเชิญมาเป็นผู้บริหาร?
งั้นผมขอยกตัวอย่าง
คุณเป็นครูสอนภาษาไทย จบมาทางด้านนี้
แต่คุณต้องมาสอนภาษาอังกฤษคุณจะสอนได้หรอ?
เหมือนงานนี้แหละครับ งานของคุณคือการสร้างบุคลากร สร้างทีมงาน ถ้าคุณสร้างแต่บุคลากรที่เลี่ยงงานขาย งานของคุณก็ผ่านพ้นไปได้ แต่ไม่ยั่งยืนหรอกครับ แต่ถ้าวันนึง ทีมงานของคุณ ต้องการขายประกัน
แล้วต้องการคำปรึกษา คุณให้คำปรึกษาหรือความรู้ได้หรอ ในเมื่อคุณไม่เคยผ่านการขายประกันมาก่อน
(ประกันนะครับไม่ใช่ของในตลาด)
นี่แหละครับผมว่าคำตอบนี้คง ให้ข้อคิดและสัจธรรมในแง่ของประกันชีวิต ไม่มากก็น้อย
(อย่าคิดว่างานประกันเป็นงานที่ต่ำครับ)
ในบริษัท ผมเดินชนกับคน คนที่เรียนจบ โท เอก เกรียตินิยม จบเมืองนอกก็เยอะ
แล้วบุคคลพวกนี้มองเห็นอะไรอ่าครับ จบขนาดนี้น่าจะไปทำงานในส่วนที่ตัวเองชอบ และ จบมา
จริงไหมครับ ถ้าคุณอยากจะทราบว่าคนพวกนี้เห็นอะไร
ทำไมพวกคุณถึงไม่เข้ามาดูด้วยตาตัวเองล่ะครับ
ดีหรือไม่ดีคุณเป็นคนตัดสิน ไม่ใช่กระทู้ไร้สาระที่บุคคลกลุ่มเดียวต้องการจะทำลาย องค์กร
****ต้องการบุคลากรคิด+*****
ธนพล อินทรโอภาส
083-2291548/086-3224202
อย่าเชื่อในสิ่งที่คุณไม่เคยสัมผัส ถ้าคุณไม่ลองทำมัน

คนเคยทำเป็นปี กล่าวว่า...

แม้จะผ่านไปนานแล้ว ก็ขอมาแชร์นะคะ
ฉันเป็นคนหนึ่งที่เคยทำงานที่ perfect ทำได้เป็นปี
ตอนนั้นจบใหม่ ไม่มีงานทำ ก็โดนโน้มน้าว (หรือคนอื่นอาจเรียกว่าถูกหลอก แต่ตอนนั้นเต็มใจปิดหูปิดตาเพื่อ คาดหวังกับเงินเดือน 18000) ตั้งแต่ก้าวเข้าไปที่องค์กรแห่งนี้ จะโดนวาดหวัง วาดฝัน คิดใหญ่ ฉันหลอกตัวเองไปวันๆว่าจะต้องได้เป็น AL ได้เงินเดือน 18000 ฉันทำมันได้สำเร็จในระยะเวลา 3 เดือน
ช่วงแรก ฉันขายเองก่อน ขายให้ญาติๆ และคนรู้จัก ได้ยอด 75000 ได้ค่าคอมได้ 30-40% แต่พี่เลี้ยงฉัน (หรือคนที่หลอกเรามา) ก็ได้ % จากเราด้วย
1-2 เดือนแรก ฉันอยู่ได้ด้วยค่าคอมฯ (เงินของครอบครัวทั้งนั้น ที่เอามาทำประกัน และเป็นค่าคอมฯ)
เดือนไหนฉันขายไม่ได้ฉัน ก็ไม่มีเงิน
2-3 เดือนต่อมา ฉันต้องหลอกคนอื่นๆ ให้มาต่อฉัน เพื่อฉันจะได้กิน% จากคนอื่น (วิธีนี้ ที่นั่นเรียกว่าการบริหารงาน) ฉันบริหารงานตามวิธีที่คนที่มาก่อนสอน ฉันสามารถสร้างทีม (หรือหลอกคนอื่นนั่นแหละ) ได้หลายคน ฉันมีลูกทีม 8-9 คน ภายในเดือนที่ 3 ยอดขายทีมฉันทะลุเป้า ฉันได้เป็น AL ภายใน 3 เดือน
เมื่อได้เป็นแล้ว ฉันถามคนที่มาก่อนๆฉันว่า ไหนละ 18000 ที่บอกว่าจะได้ ทุกคนบอกว่าดูที่ยอดขาย ต้องทำยอดขายในทีมให้ได้ถึงเกณฑ์ ก็จะได้ 18000
เวลาที่ถามทุกคนจะไม่ยอมบอกความจริงทั้งหมด บอกแค่ว่าให้เป็นไปตามขั้นตอน พอถึงเวลาแล้วจะบอก กว่าจะถึงเวลานั้นฉํนก็เสียเวลาอยู่หลายเดือน ฉันพยายามค้นหาความจริง แล้วความจริงก็เปิดเผย เมื่อลูกทีมฉันไม่ขาย ทุกคนไม่มีเงิน ลูกทีมไม่มีค่าคอม ฉันไม่ได้ค่าหัวคิว รายได้เป็น 0 หลายๆเดือน ก็กดดัน จนลูกทีมที่เป็นเพื่อนที่ฉันชวนมา ทำได้ 6 เดือน อยากเป็น AL บ้าง ก็ไปเอาตังที่บ้านมา แสนนึง ปิดยอดจะขึ้น AL ฉันก็ได้ค่าหัวคิว แต่ตอนนั้นทุกอย่าง เป็นเงินเป็นทอง ลูกทีมฉันจะขอค่าหัวคิว ซึ่งเป็นเงินที่ฉันควรจะได้ กลายเป็นเรื่อง จากเพื่อนก็ทะเลาะกัน จากเงินที่ควรจะได้ กลายเป็นไม่ได้ ถึงเวลานั้นไม่มีใครช่วยเราได้
เดือนไหนไม่มีเงิน ก็ไม่มีใครช่วย เพราะทุกคนก็ไม่ได้เงินเหมือนกัน
แฟนเราแย่ยิ่งกว่า ทำงาน 1 ปี ไม่ได้เป็น AL เลย เค้าอยู่คนละทีมกับเรา เค้าได้แค่ค่าคอมช่วงเดือนแรกที่ขาย (ก็เงินทางบ้านอีกนั่นแหละ)จากนั้นมา1ปีไม่เคยได้เงินเดือนเลยสักบาท เพราะไม่ได้ขายก็ไม่มีค่าคอม ไม่ได้มีลูกทีมก็ไม่ได้ค่าหัวคิว (เรื่องจริงเชิญพิสูจน์ได้ ถ้าไม่เชื่อ) แต่เค้าอยู่ เพราะเราอยู่
เรายังโชคดีที่มีลูกทีม เดือนไหนลูกทีมขายได้เราได้ค่าหัวคิว มีเดือนนึง เป็นโบนัสสามเดือนพอดี ได้โบนัส+ค่าหัวคิว เกือบ 40000 เป็นเดือนเดียวที่ได้เยอะขนาดนั้น แต่ถ้าเอาไปเทียบกับเดือนอื่นๆ ที่ได้ 0 บาท ก็ไม่คุ้มหรอก สรุปเงินปลายปี เอามารวมแล้วเฉลี่ยได้เดือนละ12000 ไม่คุ้มกันเลย หากไปเทียบกับการทำงานในออฟฟิต เงินเดือน+โบนัสแต่ละปี เฉลี่ยได้มากกว่านี้อีก อดทนมาปีกว่า รู้ซึ้งเลย หากไม่ติดว่าเคยได้ 40000 คงไม่ตั้งความหวังหรอก แต่มันได้ไม่คุ้มเสียนะ ยิ่งถ้าเป็นเหมือนแฟนเรา ไม่ได้เลยสักบาท ยิ่งไม่นาอยู่เข้าไปใหญ่ แต่ใครอยากลองก็เชิญ เราแค่อยากมาบอกเป็นวิทยาทาน

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ทำไมไม่เถียงตอบกระทู้ของคนนี้บ้างครับ .. คนเคยทำเป็นปี ....แสดงว่าเป็นความจริง จบข่าว..........

ChampSutee กล่าวว่า...

ผมก็เคยเข้าไปทำ เพราะอยากได้เงินเดือนเยอะๆ แต่จับไต๋ได้ตั้งแต่ 3-5 วันแรก ว่าไม่มีเงินเดือน ฝากถึง พี่เล่(ที่เคยเป็นทหารองครักษ์) พี่กวาง พี่น้ำ พี่ๆในสายทรัพย์ทวีทุกคน ไม่รู้พี่ๆยังจำผมได้ไหม ผมแชมป์่นะคับ ถ้าพี่ๆจริงใจกับผม บอกความจริงกับผม ผมคงไม่ต้องเสียเวลาไปนั่งอบรม ผมไม่ใช่คนที่มีทุนไว้กินไว้ใช้เป็นปีๆ ผมต้องหาเงินให้พอใช้ทุกเดือน หากอยู่แล้วไม่มีเงินเดือนให้ ผมจะอยู่ได้อย่างไร ที่อ่านๆความเห็นข้างบน ล้วนแต่บอกว่า แม้จะเป็น AL ก็ไม่มีเงินประจำให้อยู่ดี แสดงว่าที่พี่ๆบอกผมว่าได้ค่าบริหารทีมเดือนละ 30000 ก็ไม่ใช่เรื่องจริง เสียใจนะครับ ----- วันนี้ผมเก็บเงินได้ 100000 ละครับ ถ้าผมซื้อประกันให้ตัวเอง เพื่อผ่านโปร ขึ้นเป็น AL จะยังมีเงินเืดือนให้ผมทุกเดือนไหม ----- ปล.คิดถึงพี่ๆบ้านทรัพย์ทวีทุกคน

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เราเพื่งเริ่มtraining มา 3 วันกับตำแหน่ง AL ทุกอย่างจริงตามกระทู้ที่เพื่อนๆโพสต์คะ แรกเริ่มไม่เคยสนใจงานประกันเลย แต่ก็ลองเข้าไปฟัง คือถ้าเราสามารถผ่านด่านแรก 50000 บาทจากขายประกันด้วยตัวเอง จะได้เป็น AL. ดูแลทีม ได้ค่าบริหาร คอมมิชชั่น อื่นๆ อีกหลายส่วน นั้นหมายถึงว่าถ้าเราผ่านเกณฑ์ ไม่ยากไม่ง่าย..ติดตรงที่ว่าไม่มีเงินเดือน ช่วงแรกได้จากค่าคอมอย่างเดียว เรากำลังคิดอยู่เหมือนกันว่า จะไปต่อหรือหยุดดี ..ทำอะไรที่เราชอบ และสบายใจดีที่สุดคะ เราแค่ต้องการแชร์ให้เพื่อนๆ ได้รู้ แต่ทุกๆคนที่เป็นวิทยากรเค้าเก่งจริงๆ...;-)