วันอาทิตย์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

มะเร็ง สัญญาณร้าย 3

วันนี้มาเขียนที่ร้านล้างรถอีกแล้ว กับสภาพที่ดีขึ้นหลังการผ่านการฉีดคีโมครั้งที่ 3 มาเกือบ 2 สัปดาห์ สภาพในตอนนี้ก็เกือบเป็นปกติ ยกเว้นมีอาการปวดแขนและปวดท้องบ้างเล็กน้อย

การที่เวลาผ่านมา 2 สัปดาห์ นั่นแสดงว่า ใกล้เวลาที่จะให้หมดไปตรวจร่างกายก่อนเริ่ม Course คีโม ครั้งที่ 4 การตรวจนั้นจะเป็นการตรวจเลือด เพื่ิอนับเม็ดเลือดแดงและเกล็ดเลือด (รู้สึกว่าจะเรียกว่า CBC หรือยังไงนี่แหละ) หากจำนวนเม็ดเลือดแดงและเกล็ดเลือดยังอยู่ในสภาพปกติ ก็ดำเนินการครั้งต่อไปได้

กิจกรรมการรักษาช่วงนี้ก็จะเป็นแบบนี้ไปตลอด 6 เดือน หรือ 8 Courses ซึ่งผมเองก็ได้แต่ทำใจ นับวันเวลาถอยหลังไปจนครบถ้วน ระหว่างนี้ พี่ๆเพื่อนๆก็พยายามส่งความรู้มาให้อ่าน ซึ่งเหมือนการเปิดโลกทรรศน์ใหม่ ซึ่งเดิมผมเองไม่เคยสนใจ เกี่ยวกับแพทย์ทางเลือกเลย

สำหรับคนที่เป็นมะเร็ง ผมเสนอให้อ่านหนังสือเรื่อง "เมื่อหมอเป็นมะเร็ง" ของนายแพทย์ธันย์ ซึ่งลักษณะการเขียนไม่ได้เป็นการแนะวิธีการรักษา ประเภท how-to ที่มีอยู่เยอะแยะ แต่การเขียนของหมอธันย์เป็นเหมือน Diary ของหมอศัลยกรรม ที่เคยรักษามะเร็งให้คนอื่นด้วยวิธีแพทย์สมัยใหม่ แต่วันนี้ต้องกลับมาเป็นคนไข้เอง มีการอธิบายเชิงวิชาการที่อ่านแล้วสนุกสนาน พร้อมทั้งให้ความรู้พอสมควร

เล่มที่ 2 ที่แนะนำก็คือหนังสือแนวชีวจิต ของ นพ.สาทิศ โดยเฉพาะเรื่อง "ชีวิตเริ่มต้นเมื่อ 70" เป็นหนังสือที่ให้ความรู้แพทย์ทางเลือกที่เน้นใช้อาหารเป็นหลัก ซึ่ง นพ.สาทิศ เป็นผู้ที่ถูกกล่าวถึงในหนังสือของ นพ.ธันย์ ด้วยนะ

เล่มอื่นๆ ที่เคยได้อ่าน ก็มีอย่างเช่น หนังสือของ Lance Armstrong ซึ่งหลายคนคงเคยได้ยินข่าวด้านกีฬา Lance เป็นแชมป์ปั่นจักรยานทางไกลในรายการที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุด ที่เรียกว่า Tu De France หนังสือเรื่อง "เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับจักรยาน" ได้อธิบายถึงชีวิตและการรักษามะเร็ง ลักษณะนิสัยที่เปลี่ยนแปลงไป การมุ่งมั่นจนกระทั่งสามารถเอาชนะโรคนี้ได้อย่างละเอียด แต่ส่วนที่ชอบที่สุดของหนังสือเล่มนี้ ก็คือ การที่เขาหายจากมะเร็งนั้นเป็นเพราะวิทยาศาสตร์หรือความมุ่งมั่น ของเขากันแน่ นอกจากนี้ก็มีหนังสือแนะนำเรื่อง Macrobiotic ที่เขียนโดย นพ.Anthony ซึ่งผมจำชื่อหนังสือได้ไม่ชัดเจนนัก แต่ในหนังสือเขียนถึงแพทย์ที่รักษามะเร็ง และมีความเชื่อในแพทย์สมัยใหม่อย่างมาก จนกระทั่งวันหนึ่งได้รับคนที่โบกรถจากริมทางขึ้นมา และเขาก็ได้พบกับคำว่า Macrobiotic ซึ่งภายหลังนำไปสู่การเอาชนะโรคร้ายนี้ในที่สุด

ลองไปหาอ่านดูนะครับ ผมแนะนำ ^-^

ไม่มีความคิดเห็น: