วันจันทร์ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2551

ตอนแรก

"หกพันบาทจ้า"

เสียงคำตอบของพี่เอ๋ ผู้จัดการหอพักที่ผมอยู่ปัจจุบัน (ซึ่งถูกเรียกอย่างหรูหราว่าแมนชั่น) ตอบเกี่ยวกับอัตราค่าเช่าห้องใหม่ ซึ่งผมจำเป็นต้องย้ายเปลี่ยนห้อง หลังจากอยู่ในห้องเดิมๆในหอพดักเดียวกันนี้มากว่า 5 ปีแล้ว เนื่องจากสภาพหอพักเดิมๆอาจจะส่งผลต่อสุขภาพของตัวผมเอง โดยเฉพาะพรมเก่าที่มีอายุมากว่า 10 ปีแล้ว

ห้องใหม่ที่ผมจะย้ายเข้าไปก็มีขนาดไม่ต่างกับห้องเก่าของผมหรอกครับ เพียงแต่อยู่คนละชั้น และมีการปรับปรุงใหม่ทำให้มองดูว่าห้องใหม่นี่มีสภาพใหม่กว่าห้องเดิมของผมมาก คือ มีการทาสีใหม่เป็นสีเหลืองนวล มีการรื้อพรมเดิมและปูกระเบื้องใหม่สีส้ม มีเฟอร์นิเจอร์ชุดใหม่สีไม้โอ๊ค มีเครื่องกรองน้ำเล็กๆ 1 อันเพื่อกรองน้ำประปาที่มักจะมีฝุ่นปะปนมา และยังมีเครื่องใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจากห้องเดิม ก็คือตู้เย็นและทีวี (ส่วนแอร์กับน้ำอุ่นนั้นมีอยู่แล้วครับ) เออ!! เกือบลืมไปครับ ยังมีสัญญา (ใจ) กันด้วยว่าจะมาเปลี่ยนที่รองชักโครก สายฉีดชำระ แล้วก็ตู้ built-in ในห้องด้วย (แต่นี่ก็อยู่มากว่า 6 เดือนแล้ว ยังไม่ได้เปลี่ยนเลย สงสัยพี่เอ๋เราลืมแล้ว เฮ้อ!!) สำหรับผมราคาค่าห้องใหม่นั้นนับว่าแพงเอาการทีเดียว นอกจากนี้ยังราคาสูงกว่าหอพักใน กทม.ส่วนใหญ่เสียด้วย

ความคิดที่แว๊บกลับเข้ามาอีกครั้ง ก็คือ "สงสัยต้องซื้อบ้านอยู่เองแล้ว" ที่ว่ากลับมา นั้นก็เพราะว่าความคิดนี้ไม่ใช่ความคิดที่ใหม่ แต่เป็นความคิดเดิมๆที่เคยมี ตั้งแต่เริ่มต้นทำงานที่แรกแล้ว แต่เมื่อมีฝ่ายเสนอ ก็มักจะเกิดความคิดฝ่ายค้านอีกด้านหนึ่งอยู่ในใจด้วย ความคิดฝ่ายค้านมีเหตุผลสารพัด ไม่ว่าจะเป็น บ้านคือภาระ และไม่ใช่แค่ระยะสั้นๆหากแต่เป็นภาระผูกพันธ์ในระยะยาวจนถึงเกษียณทีเดียว นั่นทำให้เราพบกับความไร้อิสรภาพด้านการเงิน การตัดสินใจใดๆต่อไปในชีวิตก็จะต้องพะวง ต่อไปถ้าอยากออกจากงานก็ลำบากหรือต่อไปจะไปกู้เงินลงทุนอะไรสักอย่างก็จะลำบาก มีบ้านก็ต้องมีค่าใช้จ่าย เรามีเงินพอแล้วเหรอ ที่ใช้อยู่ก็เดือนชนเดือนแล้ว จะเอาเงินที่ไหนไปซื้อบ้าน นอกจากนี้มีบ้านยังต้องคิดถึงเรื่องการจัดการ ไม่ว่าจะเป็นความยุ่งยากในการดูแลบ้านทำความสะอาด การซ่อมแซมปรับปรุง ไหนจะเรื่องความปลอดภัยอีก ทุกวันนี้ขโมยและโจรมีมากมาย แล้วเราไม่ได้อยู่บ้านตลอดด้วย นี่ยังไม่นับรวมเรื่องต่างๆสารพัดเรื่องที่เราอาจยังคิดไม่ถึง สรุปแล้วจะซื้อทำไม จ่ายค่าเช่าสัก 3 พัน หรือ 4 พัน สบายใจกว่าเยอะ

ด้วยความที่ฝ่ายค้านนั้นมีเหตุผลมากมาย ทำให้การซื้อบ้านไม่เคยเกิดขึ้นจริงสักครั้ง แต่ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไป ค่าเช่าหอมีราคาเพิ่มสูงขึ้น อายุก็เพิ่มขึ้น ประสบการณ์ที่ผ่านมาก็เพิ่มขึ้น ทำให้ ดูเหมือนเหตุผลเดิมๆของฝ่ายค้านกลับมีน้ำหนักน้อยลง ทำให้ได้ข้อสรุปง่ายๆว่า

ซื้อบ้านอยู่เองดีกว่า

ไม่มีความคิดเห็น: