วันอังคารที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ฟุตบอลไทย จะไป ฟุตบอลโลก จริงเร้อ!!


ผมเป็นคนหนึ่งที่ชอบดูฟุตบอลครับ

แต่ก็คงไม่ถึงขนาดขั้นบ้าฟุตบอลจนต้องดูทุกแมตซ์แบบบางคน ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไรถึงชอบ อาจจะเป็นเพราะกระแสที่มีคนร่วมเชียร์หรือพูดถึงด้วยจำนวนมาก หรือเป็นเพราะเกมส์ฟุตบอลที่สนุกเร้าใจ แต่จำได้ว่าทุกครั้งที่ฟุตบอลไทยแข่งขันและมีการถ่ายทอดสด ถ้ามีโอกาสได้ดูก็มั่งจะนั่งติดหน้าจอทุกครั้ง โดยเฉพาะในแมตซ์ระดับชาติอย่างเช่นนัดชิงฟุตบอลกีฬาอาเซียนเกมส์ หรือนัดที่มีทีมชื่อดังจากต่างชาติเข้ามาเล่นในประเทศไทย

ผมเชื่อว่าทุกคนที่ชอบฟุตบอล ก็คงอยากให้ทีมไทยเก่งๆ คือเก่งที่สุดในอาเซียน เก่งที่สุดในเอเชีย หรือเก่งจนผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลกก็ยิ่งดี แต่เราก็คงต้องยอมรับความเป็นจริง ว่าจากสภาพทีมชาติไทยในปัจจุบันก็คงต้องยอมรับว่าอีกนานทีเดียวกว่าที่ทีมไทยจะไปถึงระดับนั้นได้ แล้วเมื่อไรละทีมชาติไทยจะได้ไปบอลโลกอย่างที่หวังเสียที

ไม่รู้ว่ามีใครทราบหรือไม่ว่า จริงๆแล้ว ทีมชาติไทยนั้นเคยเกือบได้เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลกเหมือนกัน ตั้งแต่สมัยเริ่มจัดฟุตบอลโลกครั้งแรก ในปี 1930 หรือเกือบ 80 ปีมาแล้ว แต่เป็นการเชิญให้เข้าร่วม และประเทศไทยก็ได้ปฏิเสธไปเนื่องจากมีปัญหาเรื่องการเมืองภายใน และภายหลังได้มีการเข้าร่วมอีกครั้งในลักษณะการเตะในรอบคัดเลือกตั้งแต่ปี 1974 (ถึงตอนที่เขียนนี่ก็ 9 ครั้งแล้ว) โดยมีสถิติที่น่าสนใจดังนี้
- แข่งรวมทั้งหมด 65 นัด ชนะ18 เสมอ12 แพ้ 35 ยิงได้ 89 เสีย 116 ประตู
- ชนะมากที่สุด (เยือน)มาเก๊า 7-1(คัดบอลโลกปี 2010),(เหย้า)ปากีสถาน 6-0(คัดบอลโลกปี 2002)
- แพ้มากที่สุด อิสราเอล 0-6(คัดบอลโลกปี 1974เตะที่เกาหลีใต้),(เยือน)คูเวต 0-6คัดบอลโลกปี 1978)
- นักเตะไทยที่ยิงประตูมากที่สุดใน 1 นัด เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง 4 ประตู ในแมตซ์ ไทย ชนะ ปากีสถาน 6-0
- ดาวซัลโวฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกของไทย 14 ประตู:เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง,10 ประตู:ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ,7 ประตู:เสกสรรค์ ปิตุรัตน์,ศรายุทธ ชัยคำดี




ย้อนกลับไปที่คำถามเดิมว่า แล้วเมื่อไรประเทศไทยจะได้ไปบอลโลกเสียที? ผมพยายาม Search หาคำตอบ แต่ดูเหมือนจะเป็นคำถามที่ยังไม่สามารถหาคำตอบได้ คงแต่มีเฉพาะผู้คนที่แสดงทรรศนะถึงอุปสรรคที่ขัดขวางบอลไทยที่จะไปบอลโลก อย่างเช่น สมาคมมีระบบการจัดการที่ไม่ดี ผู้บริหารมือไม่ถึง ขัดขากันเอง มีผลประโยชน์แอบแฝง ไม่ตั้งใจจริง นักเตะไทยขาดระเบียบวินัย ขาดความฟิต ขาดความมุ่งมั่น โค้ชไม่ดีพอ ระบบฟุตบอลลีกในประเทศไม่เป็นมืออาชีพ ฯลฯ แต่ในความคิดเห็นส่วนตัวของผม สาเหตุหลักก็คือการขาดการวางแผนระยะยาวและการเอาจริงเอาจังตามแผนที่วางไว้

ถ้าใครดูตัวอย่างประเทศญี่ปุ่น และเป็นคนมีอายุสักหน่อยก็คงรู้เลยว่าเดิมนั้นประเทศญี่ปุ่นเล่นบอลได้แย่กว่าทีมชาติไทยซะอีก แต่มาถึงปัจจุบัน แม้แต่ทีมสำรองของเขา เราก็ยังไม่สามารถสู้ได้ด้วยประการทั้งปวง และถ้าใครทราบก็จะรู้ว่าประเทศญี่ปุ่นเริ่มมีการวางแผนจะเป็นแชมป์ฟุตบอลโลกกันแล้ว ... ดูสิ เค้าวางแผนกันขนาดนั้น

ดังนั้น หากประเทศไทยตั้งมั่นจะไปฟุตบอลโลกจริงๆ ก็ต้องวางยุทศาสตร์กันให้ชัดเจน และถ้าจะให้ดีก็ควรตั้งเป็นวาระแห่งชาติเลยเพื่อให้ทุกกระทรวงทำการพัฒนาไปโดยมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน

ผมเห็นด้วยกับแนวทางในการเริ่มต้นจากการพัฒนาลีกในประเทศให้มีความแข็งแกร่งครับ เพราะจะเป็นแนวทางที่ยั่งยืนกว่า และใช้เงินของรัฐน้อยกว่า การพัฒนาลีกจะช่วยทำให้เรามีตัวเลือกผู้เล่นเยอะขึ้น นักเตะที่มีความสามารถก็ไม่ต้องกลัวที่จะทิ้งการเรียนมาเป็นนักเตะอย่างเต็มตัว โค้ช ผู้จัดการ และทีมผู้ฝึกสอนก็จะถูกพัฒนาเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งบรรดากรรมการและกองเชียร์ ดังนั้น หากลีกในประเทศแข็งแกร่งแล้ว เชื่อได้เลยว่าจะเป็นการยกระดับฟุตบอลของประเทศได้อย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตามการพัฒนาลีกคงไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของทีมที่ประสบความสำเร็จ ดูได้อย่างประเทศที่มีลีกที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกอย่างอังกฤษที่ยังไม่เคยคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกมาได้สักที และยังมีการตกรอบคัดเลือกยูฟ่าคัพอีกด้วย หรืออย่างประเทศแชมป์โลกอย่างอิตาลี ก็ฟอร์มบู่ ตกรอบฟุตบอล Confederation Cup ที่ผ่านมา ซึ่งก็จะเห็นว่าลีกที่แข็งแกร่งอย่างเดียวอาจไม่ทำให้ฟุตบอลทีมชาติพัฒนาไปได้อย่างที่มุ่งหวัง หากแต่ต้องมีการวางแผนอย่างเหมาะสมจากทางสมาคมด้วยนั่นเอง

เอาเถอะครับ ตอนนี้เราในฐานะคนไทยคนหนึ่งคงช่วยอะไรมากไม่ได้ นอกจากช่วยกันส่งเสริมลีกในประเทศ และช่วยกันแสดงความคิดเห็น และผมเชื่อว่าความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จก็คงไม่ไกลเกินฝันครับ

ไม่มีความคิดเห็น: