วันเสาร์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2553

เมื่อพี่อยากซื้อรถใหม่ ....

พอดีพี่ำกำลังอยากซื้อรถใหม่สักคัน ชวนไปดู Motor Show พรุ่งนี้ ไอ้เราก็ไม่ได้ติดตามเรื่องของรถมานานแล้ว ตอนซื้อเอง ตอนนั้นก็นั่งดูอยู่นานกว่าจะได้น้อง 3 ของเรามา คิดไปคิดมา ก็เลยเอาข้อมูลที่รวบรวมได้มาเขียนดีกว่า เผื่อจะซื้อรถอีกครั้งจะได้กลับมาดูได้เลย โดยไม่ต้องค้นนู่นค้นนี้ นอกจากนี้ถ้าใครอยากได้รถใหม่ๆ ก็ลองเข้ามาอ่าน เผื่อจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยครับ

เท่าที่รวบรวมมา ผมสรุปขั้นตอนส่วนตัวในการซื้อรถคันใหม่ 4 ขั้นตอน ดังนี้

1) เลือกขนาดและประเภทรถก่อน
การเลือกขนาดและประเภทรถนั้น ให้เลือกจากความต้องการและการใช้งานของเราครับ อย่าลืมว่ารถ 1 คัน เราใช้งานอย่างน้อย 5-10 ปี ดังนั้น เราต้องพิจารณาถึงการใช้งานในช่วงอายุของรถด้วย ไม่ใช่ยึดเฉพาะความต้องการตอนนี้

สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มอย่างไร ลองทำตามขั้นตอนง่ายๆ 2 ขั้นนี้ครับ

(a) จะใช้รถสำหรับ??? เดินทางเป็นหลัก หรือขนของเป็นหลัก แน่นอน ถ้าขนส่งก็ควรเลือกรถจำพวกกระบะ หรือรถที่ดัดแปลงจากกระบะ (บางทีเค้าเรียกกันว่า PPV= Pick-up Passenger Vehicle) แต่ถ้าใช้เดินทางละก็มีให้เลือกมากมาย ทั้งรถเก๋งเล็ก เก๋งใหญ่ รถตู้ หรือรถกึ่งตู้ที่บางคนเรียกว่า MPV (Multi-Purpose Vehicle) แต่ถ้ายังก้ำกึ่งละก็ลองดูพวกรถก้ำกึ่งที่มักเรียกกันว่า SUV (Sport-Utility Vehicle)

อ่านถึงตรงนี้ หลายคนก็งง อะไรคือ SUV อะไรคือ MPV และอะไรคือ PPV ทำไมเยอะแยะไปหมด สำหรับตัวผมเองไม่อยากให้คนเลือกลดไปยึดติดกับการแบ่งประเภทรถเหล่านี้เลยครับ เพราะผมว่าระบบการแบ่งนั้นเป็นแค่การแบ่งแบบหยาบๆเท่านั้น ไม่มีเกณฑ์ที่ตายตัวชัดเจน หลายที่แบ่งรถตามความต้องการของตลาด นั่นคือ ตลาดว่าแบบไหนขายได้ ก็พยายามจัดประเภทรถของตนไว้เป็นแบบนั้น

สิ่งที่ผมคิดว่าใช้แบ่งจริงๆก็คือระบบช่วงล่างครับ รถที่มีไว้สำหรับขนของเป็นหลัก ช่วงล่างจะมีความทนทาน และรับน้ำหนักได้มากกว่า แต่ความนุ่มนวลก็จะสู้รถสำหรับเดินทางไม่ได้ครับ ในอดีตช่วงล่างของรถนั้นแบ่งได้กันอย่างชัดเจนครับ เพราะรถกระบะโดยทั่วไปจะใช้ระบบแหนบ ขณะที่รถเก๋งจะใช้ Shock-up แ่ต่ปัจจุบันเทคโนโลยีมีการพัฒนา ทำให้รถกระบะมีช่วงล่างที่นุ่มนวลมากขึ้น ซึ่งการแบ่งว่าใช้แหนบหรือ shock-up ก็อาจจะไม่เหมาะสมแล้ว เอาเป็นว่าถ้าจะใช้สำหรับคนนั่งเดินทางบ่อยกว่า ก็เลือกเอนเอียงไปทางรถนั่งที่เน้นความนุ่นนวลครับ แต่ถ้าต้องมีการขนของมากๆ ก็เลือกช่วงล่างที่เน้นทนๆไว้ครับ

(b) ขับใกล้-ไกลแค่ไหน?? ลักษณะการขับใกล้หรือไกลจะบอกขนาดรถที่เราควรใช้ได้อย่างคร่าวๆ ถ้าใครที่ใช้รถเฉพาะในเมืองอย่างเดียว เช่น วิ่งใน กทม. ตลอด ถ้าจะไปต่างจังหวัดก็นั่งรถคันอื่น แบบนี้สามารถเลือกรถได้ทุกประเภท แต่ผมแนะนำว่าให้เลือกจำพวก City Car เลย เพราะ City Car จะมีคุณสมบัติก็คือเครื่องเล็กและคันเล็ก เครื่องเล็ก (โดยทั่วไปตามตลาดก็มัก < 1500cc) จะให้ความประหยัด (ทั้งเชื้อเพลิงและค่าบำรุงรักษา) กว่าเครื่องใหญ่ ส่วนคันเล็กก็จะให้การขับขี่ที่สะดวก หาที่จอดก็ง่าย เข้าซอกเข้าซอยก็ง่าย

สำหรับใครที่วิ่งไกลขึ้นหน่อย เช่น อย่างตัวผมวิ่งออกชานเมืองเป็นประจำ ก็ควรเลือกรถที่ใหญ่ขึ้นหน่อย โดยส่วนตัวผมว่าควรจะเลือกสัก 1600cc ขึ้นไป และยิ่งวิ่งไปไกลมากๆ ก็ควรใช้รถที่ใหญ่ขึ้นครับ

2) List รายชื่อรถที่เข้าเค้า และทำการเปรียบเทียบ
หลังจากผ่านขั้นตอนแรกมาแล้ว เชื่อว่าคงได้กรอบรถที่แคบลงแล้ว ก็ให้เราทำการ List รายชื่อรถที่เข้าเค้าทั้งหมด และทำการเปรียบเทียบคุณสมบัติของแต่ละรุ่น โดยสิ่งที่ควรเปรียบเทียบมีจำนวน 7 ข้อ ดังนี้

- ราคา ในความเห็นของผมนั้นราคาเป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาเป็นลำดับแรกและลำดับสุดท้าย ที่คิดแบบนี้เนื่องจากผมดูรถในกลุ่มราคาที่ผมซื้อได้ก่อน เช่น ไม่เกิน 9 แสนบาท หรือไม่เกิน 6 แสนบาท อันไหนเกินไปเยอะๆผมตัดทิ้งก่อนครับ หลังจากนั้นจึงไปเทียบในคุณสมบัติด้านอื่นๆ และมาดูในด้านราคาอีกครั้งจะเห็นภาพชัดเจนครับ

- อัตราเร่งและช่วงล่าง สำหรับหัวข้อนี้เหมาะสำหรับคนใจร้อนที่ชอบขับรถซึ่ง (ขับรถซิ่งในที่นี้ไม่ได้แปลว่าขับรถเร็วนะครับ แต่เป็นประเภทปาดซ้าย ปาดขวา แซง อะไรแบบนี้ครับ) ผมแนะนำว่าให้ดูในเรื่องอัตราเร่งและช่วงล่างประกอบกันครับ จริงๆคุณสมบัติข้อนี้อ่าน spec รถก็ไม่ค่อยรู้ครับ แนะนำว่าควรจะอ่านจากความเห็นเพื่อนๆที่เคยใช้อยู่ครับ อย่างเช่น น้อง 3 เค้าว่า อืดแต่หนึบ แปลว่าเร่งไม่ค่อยดีแต่ว่าช่วงล่างดี แต่ Civic จะเร่งปรู๊ดปร๊าดแต่ช่วงล่างก็สู้ไม่ได้ แบบนี้เป็นต้นครับ นอกจากนี้หลายคนยังแนะนำให้ไปหาโอกาสลองขับครับ แต่ผมลองแล้วก็ยังไม่ค่อยรู้ ไม่รู้ทำไม อันนี้แล้วแต่แล้วกันครับ

- ความปลอดภัย หัวข้อนี้อ่านจาก Spec รถได้เลยครับ หลักๆก็คือ ถุงลมมีกี่จุด ABS มีไหม มี Censor อะไรให้บ้าง ประมาณนี้ครับ นอกจากนี้ก็อ่านพวกข่าวบ่อยๆ ก็จะพบได้หลายอย่าง เช่น BM ชอบมีข่าวรถคว่ำมากกว่า Volvo หรือ Civic เคยมีข่าวรถขาด 2 ท่อน แบบนี้เป็นต้นครับ

- หน้าตา หัวข้อนี้ นานาจิตตัง แต่ผมว่าถ้าใครที่สนใจเรื่องหน้าตาแล้วละก้อ หัวข้อนี้จะเป็นส่วนที่สำคัญอันดับต้นๆเลยครับ

- ประหยัดน้ำมัน อันนี้ก็ให้ดูที่ลักษณะเชื้อเพลิงและการกินน้ำมันเป็นหลัก ซึ่งผมอยากให้หาข้อมูลในเว็บควบคู่กับการโฆษณาครับ

- การให้บริการ การให้บริการสำคัญมากโดยเฉพาะกับรถป้ายแดง รถตลาดในบ้านเราส่วนใหญ่มีการให้บริการเป็นจุดขายครับ แต่ปัจจุบันรถรุ่นใหม่ๆที่มียอดขายดีก็เริ่มให้ความสำคัญกับการบริการมากยิ่งขึ้นครับ อันนี้ผมว่าหาข้อมูลได้จากคนที่ใช้รถรุ่นดังกล่าวอยู่จะดีที่สุดครับ

- ราคาขายต่อ อันนี้ไม่ต้องคิดมาก รถตลาดอย่าง Toyota กับ Honda เป็นรถที่ราคาไม่ค่อยตกเมื่อเทียบกับรถแปลกๆอย่าง Nissan Mazda หรือ Ford ประเด็นนี้ก็จะมีความสำคัญมากสำหรับคนที่คิดจะใช้รถไม่นานนัก แต่ถ้าใครกะใช้นานมากก็ลืมๆประเด็นนี้ไปได้ครับ

สำหรับขั้นตอนนี้ผมอยากให้เวลากับมันมากสักหน่อยครับ โดยเฉพาะข้อมูลผู้ใช้รถนี้มีความสำคัญมากครับ ดังนั้น อ่านเยอะๆครับก่อนซื้อรถ เพราะรถยนต์ไม่ใช่บาทสองบาทนี่นา

3) ตัด Choice แล้วไปลองของจริง

4) ต่อรองๆๆ

สุดท้าย ผมอยากจะบอกผู้จะซื้อรถป้ายแดงทุกท่านครับ อย่าคาดหวังว่ารถป้ายแดงคือรถที่ไม่มีปัญหาครับ เพราะเท่าที่ผ่านมารถป้ายแดงหลายคันมีปัญหาได้ครับ ซึ่งนั่นขึ้นกับความคาดหวังของท่านๆแหละครับ พี่ผมคนหนึ่งใช้รถมือสองมาทั้งชีวิต และมีความฝันอยากออกรถป้ายแดง จนในที่สุดฝันก็เป็นจริง ล่าสุดได้ไปคุยกันแกก็เล่าให้ฟังว่าเจอปัญหานู่นนี่ นู่นนี่ รู้อย่างนี้ใช้รถมือสองเหมือนเดิมดีกว่า หรือแม้แต่ตัวผมเองก็เจอครับ ดังนั้ัน ขอให้พึงระลึกไว้ครับว่าไม่มีอะไรจะสมบูรณ์ 100% ครับ และสังขารย่อมเสือมไปเป็นธรรมชาติครับ

ไม่มีความคิดเห็น: