วันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2554

เกร็ดมังกรหยก

ดูหนังมังกรหยกไป ดูข้อมูลจากในอินเตอร์เน็ตไป พบเกร็ดจากเรื่องมังกรหยกที่น่าสนใจหลายอย่าง จึงพยายามมาเขียนรวมไว้ที่นี้

1. แผนที่จีนสมัยมังกรหยก พร้อมกับตำแหน่งสถานที่สำคัญ

พอดีเจอแผนที่นี้น่าสนใจ แต่ในความเห็นผม ขอบเขตระหว่างชาวซ้องกับจิน น่าจะไม่แน่ชัด เพราะเข้าใจว่าพรรคช้วนจิน และพรรคฝ่ามือเหล็ก ตามท้องเรื่องน่าจะอยู่ในเขตของซ้องมากกว่า แต่ภายหลังพรรคฝ่ามือเหล็กหันไปคบหากิม จึงถูกว่าว่าทรยศทั้งที่หัวหน้าพรรคคนก่อนก็รักชาติมาก

2. การประลองบนเทือกเขาหัวซาน
การจัดประลองครั้งแรกเกิดขึ้นก่อนก๊วยเจ๋งเกิดราว 3 ปี ในตอนนั้นจัดขึ้นเพื่อแย่งชิงกันครอบครองคัมภีร์เก้าอิม แต่จอมยุทธแต่ละคนก็มีจุดมุ่งหมายต่างกัน แน่นอนพิษประจิมอ้าวเอี๊ยงฮง ต้องการคัมภีร์เพื่อฝึกให้กลายเป็นเจ้ายุทธจักร ขณะที่อั้งชิกกงและอึ้งเอี๊ยซือ น่าจะแค่ต้องการพิสูจน์ว่าตนเองเก่งแค่ไหน ขณะที่เฮ้งเตงเอี๊ยง กลางอิทธิฤทธิ์ และอิตเต็งไต้ซื้อ ต้องการไม่ให้เกิดการฆ่าแย่งชิงคัมภีร์กันต่อไป

ภายหลังเฮ้งเตงเอี๊ยงชนะการประลองกลายเป็นเจ้ายุทธจักร ได้เก็บคัมภีร์ดังกล่าวไว้ใต้หินที่นั่งของตน โดยไม่ได้ฝึกวิชาในคัมภีร์แม้แต่น้อย รวมทั้งยังห้ามศิษย์ของตนทั้งหมด รวมทั้งจิวแป๊ะทง ห้ามฝึกวิชาดังกล่าว เฮ้งเตงเอี๊ยงนั่งเฝ้าคัมภีร์ดังกล่าวจนตัวตาย ทำให้อ้าวเอี๊ยงฮงไม่สามารถแย่งชิงไปได้ และได้สั่งเสียให้ทำลายชคัมภีร์ทันทีหลังจากที่ตัวเองตาย แต่อึ้งเอี๊ยซือใช้ปัญญาแอบลอกเอาไว้ได้

ในเรื่องมังกรหยกนั้นในตอนจบ ผู้เขียนได้เขียนถึงฉากการประลองดังกล่าวอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้การประลองแตกต่างจากครั้งแรกโดยสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเป็นผู้เข้าร่วมประลอง ซึ่งคงเหลือจากเดิมเพียงแค่ 3 คน นั่นก็คือ อั้งชิกกง อึ้งเอี๊ยซือ และอ้าวเอี๊ยงฮง เนื่องจากอิตเต็งไต้ซือ บวชแล้วจึงไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับเรื่องการประลองอีกต่อไป ส่วนเฮ้งเตงเอี๊ยงก็ตายหลังจากประลองครั้งแรกไม่นาน นอกจากนี้ก็ยังมีผู้ที่มาเกี่ยวข้องเพิ่มเติม นั่นคือ ก๊วยเจ๋ง ซึ่งตอนแรกมาดู แต่ตอนหลังอึ้งย้งได้ให้เข้าร่วมประลองด้วยโดยไม่รู้ตัว  จิวแป๊ะทง ก็เดินทางผ่านมาด้วย แต่ก็ไม่ได้เข้าร่วมประลอง เนื่องจากไปเจอเอ็งโกซะก่อน ส่วนคิวโชยยิ่ม ที่ดูเหมือนจะมาประลองด้วย หลังจากฝึกฝนฝ่ามือเหล็กมากว่ายี่สิบปี แต่เกิดสำนึกผิด จึงของบวชกับอิตเต็งไต้ซือแล้วกลับไปด้วย

นอกจากนี้อ้าวเอี๊ยงฮง ยังมีสติฟั่นเฟือน อันเกิดจากการฝึกวิชาเก้าอิมแบบมั่วๆที่อึ้งย้งและก๊วยเจ๋งเขียนคัมภีร์ให้ และเกิดจากการตกเขา ทำให้ทุกคนไม่อยากประลองด้วย และยกให้เค้าเป็นผู้ชนะในการประลองครั้งนี้ไป แต่กิมย้งได้แสดงทรรศนะผ่านคูชู่กี่และอึ้งย้ง ว่าผู้ที่น่าจะถูกยกให้เป็นจ้าวยุทธจักรแห่งแผ่นดินที่แท้จริงน่าจะเป็นอั้งชิกกง เพราะนอกจากจะมีวรยุทธที่สูงแล้ว ยังมีคุณธรรมที่สูงอีกด้วย

3. คัมภีร์เก้าอิม
ในเรื่องกล่าวว่าเกิดจากจอมยุทธคนหนึ่งบัญญัติไว้ จากความแค้นที่พรรคมารทั้งหลายได้เข้ามาเข่นฆ่าพวกของตน จึงน่าจะเป็นการรวมเคล็ดวิชาปราบมารไว้อย่างหลากหลาย และน่าจะเป็นอะไรที่เข้าใจได้ยากมาก เพราะจากในเรื่องจะเห็นได้จากที่กว่าก๊วยเจ๋งจะฝึกได้ ก็ต้องใช้เวลาทำความเข้าใจจากหลายที่หลายทาง และทำการฝึกเป็นส่วนๆไป (ซึ่งดูจบก็ยังไม่รู้เลยว่าก๊วยเจ๋งฝึกสำเร็จครบแล้วหรือไม่) ผมพยายามรวบรวมที่เกี่ยวข้องกับคัมภีร์เก้าอิมได้ดังนี้
  • เหมยเชาฟง ฝึกเอง แบบไม่ค่อยเข้าใจ และได้คัมภีร์มาเฉพาะท่อนหลัง ได้กรงเล็กกระดูกขาว ซึ่งฝีมือใกล้เคียงกับค่ายกลดาวเหนือที่โด่งดังของ 7 ศิษย์เฉียนฟง ภายหลังได้สอนให้เอี๊ยคังด้วย
  • ก๊วยเจ๋ง ฝึกบางส่วนเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บที่เกิดจากอ้าวเอี๊ยงฮงและเอี๊ยคัง โดยต้องฝึก 7 วัน 7 คืน โดยไม่มีใครรบกวน
  • ก๊วยเจ๋ง ใช้วิชาจากคัมภีร์ เพื่อแก้มัดตัวเอง ตอนที่ถูกเอี๊ยคังจับมาตอนประชุมพรรคกระยาจก
  • ก๊วยเจ๋งบอกว่าเข้าใจมากขึ้น ตอนเห็นวิชาดรรชนีเอกสุริยัน และพลังธาตุธรรมชาติ (ได้รับการถ่ายทอดจากเฮ้งเต็งเอี๊ยง) ของอิตเต็งไต้ซือ ตอนช่วยอึ้งย้ง ที่บาดเจ็บจากฝ่ามือเหล็กของคิ้วโชยยิ้ม
  • ก๊วยเจ๋งได้รับการสอนบางส่วน ที่มีลักษณะเป็นบทสวดจากชาวซีเซี่ย ซึ่งสามารถใช้รักษาคนและทะลวงจุดชีพจรได้ ซึ่งก๊วยเจ๋งได้นำไปสอนให้อาจารย์ของตน (อั้งชิกกง) เพื่อรักษาพิษที่เกิดจากงูของอ้าวเอี๊ยงฮง
  • เฒ่าทารก บอกเองว่าสำเร็จคัมภีร์เก้าอิมแล้ว วิทยายุทธสูงที่สุดในตอนท้ายเรื่อง (อึ้งย้งและก๊วยเจ๋งวิเคราะห์) ซึ่งเป็นไปได้เพราะเฒ่าทารกได้ชื่อว่าเป็นผู้หลงไหลในวรยุทธ


4. ความเกี่ยวเนื่องของวิทยายุทธ
กิมย้งได้ทำการรังสรรเรื่องราวของเขา โดยประดิษฐ์วิทยายุทธต่างๆขึ้นมาให้มีความสัมพันธ์กันแม้ว่าจะอยุ่คนละเรื่อง โดยเฉพาะมังกรหยกกับ 8 เทพอสูรมังกรฟ้า จนต้องจัดเรื่องดังกล่าวให้อยู่ใน series เดียวกัน เพราะแม้ว่าจะอยู่คนละยุคสมัย แต่วิชาต่างๆกับดูคล้ายกันเหลือเกิน เช่น
  • ฝ่ามือสยบมังกร ที่เห็นจากอั้งชิกกง และก๊วยเจ๋ง ก็เป็นวิชาเดียวกับเฉียวฟง ตัวเอกของเรื่อง
  • ดรรชนีเอกสุริยัน ของอิตเต็งไต้ซือ ก็เชื่อว่าสืบทอดมาจากตระกูลต้วนในเรื่อง ซึ่งแม้ใน 8 เทพอสูรมังกรฟ้า จะมีวิชาที่สุดยอดกว่าอย่าง ดรรชนี 6 ชีพจร แต่ก็สาปสูญไปแล้ว
  • ความรู้เรื่องพิษของพิษประจิม เชื่อกันว่าสืบทอดมาจาก
นอกจากนี้ยังมีความเกี่ยวกับเรื่องอื่นๆด้วย อย่างเช่นที่ไปเจอมาก็อย่างวิชากระบี่แห่งแคว้นเวียดซึ่งปรากฏในเรื่องมังกรหยกอย่างไม่เด่นชัดนัก โดยผู้ใช้ก็คือน้องเล็กแห่งเจ็ดประหลาดกังน้ำ ซึ่งมีฝีมือไม่สูงมาก แต่ก็เป็นวิชาเดียวกับอาแซ ยอดฝีมือจากนวนิยายกำลังภายในเรื่องกระบี่นางพญา ซึ่งมีที่มาเดียวกัน เพราะตามเรื่องกล่าวว่ากระบี่ดังกล่าวเลียนแบบมาจากลิง ซึ่งสอดคล้องกับที่อาแซฝึกกระบี่มาจากลิง

5. Version ของหนัง
พอดีไปเจอบล๊อคนี้มา ใครอยากรู้ว่าหนังมีกี่เวอร์ชั่น ไปดูได้เลยที่ http://www.oknation.net/blog/hardcorelawyer/2010/10/25/entry-2 สำหรับผมเองที่ได้มาเขียนดู Version 2003 (พออ่านบล๊อก อยากดู version 1983 จัง) เนื่องจากหาใน youtube เจอเป็นอันแรก โดยส่วนตัวคิดว่านักแสดงก็น่ารักดี แต่ผมไม่ชอบเรื่องของบทหนังที่ดูข้ามไปข้ามมา โดยเฉพาะในตอนท้ายๆ และฉากต่อสู้ ที่ใช้ Special Effect มากซะจน ไม่มีการต่อสู้แบบที่ใช้นักแสดงแบบแต่ก่อนเลย ไม่ค่อยมันส์เท่าไร

6. ใครเก่งที่สุดในเรื่อง
คำถามแรกๆที่มักมีคนสงสัยก็คือ ใครเก่งกว่าใครกันแน่ ซึ่งแน่นอน เราๆท่านๆก็คงทำได้แค่เปรียบเทียบและคาดเดาจากในเรื่องเท่านั้น การเปรียบเทียบแบบนี้ทำได้แน่นอนก็เพียงแค่การเรียงลำดับ แต่จะให้ประมาณออกมาเป็นตัวเลขว่าคนนั้นเก่งกว่าคนนี้กี่เท่า ออกจะทำได้ยากสักหน่อย ดังนั้นผมจึงถือโอกาสเรียงลำดับจากความคิดของผมเอง (เฉพาะในเรื่องมังกรหยกภาคแรกเท่านั้น) ออกมาดังนี้

1. เฒ่าทารกจิวแป๊ะทง ศิษย์น้องของเฮงเตงเอี้ยง แม้จะไม่ได้เป็น 1 ใน 5 ยอดฝีมือครั้งแรก แต่จากการวิเคราะห์ของก๊วยเจ๋งและอึ้งย้งในตอนท้ายเรื่อง ยกให้เขาเป็นอันดับ 1 นอกจากนี้ยังได้ประมือกับอ้าวเอี๊ยงฮงหลายครั้ง ก็ไม่ได้รับบาดเจ็บเลย


2. อิตเต็งไต้ซือ เนื่องจากในเรื่องไม่ได้มีบทสู้กับใครเลย แต่จากการหันหาธรรมมะ เชื่อว่าทำให้กำลังภายในเพิ่มพูน นอกจากนี้ยังได้รับการถ่ายทอดวิชาธาตุธรรมชาติจาก เฮงเตงเอี๊ยง เชื่อว่าถ้าประลองจริงๆ น่าจะเก่ง จัดให้เป็นอันดับ 2

3. อ้าวเอี๊ยงฮง (พิษประจิม) ได้ทำการฝึกฝนตัวเองเรื่อยมา เพราะมุ่งมั่นจะเป็นจ้าวยุทธภพ ภายหลังไปฝึกคัมภีร์เก้าอิมแบบมั่วๆมา ก็ยังฝึกได้อีก ฝีมือน่าจะสูงมาก เลยจัดให้เป็นอันดับ3

4.  อั้งชิกกง (ยาจกอุดร) และ อี้งเอี๊ยซือ (มารบูรพา) น่าจะมีฝีมือสูสีกัน แม้ตอนท้ายอั้งชิกกงจะมีกำลังด้อยกว่าอึ้งเอี๊ยซือเล็กน้อย เนื่องจากเพิ่งหายจากการถูกพิษก็ตาม


5.เฮงเตงเอี้ยง เป็น 1 ใน 5 ยอดฝีมือยุคแรก ฉายากลางอิทธิฤทธิ์ แต่จากการประลองที่เขาคุนลุ้น เพื่อตัดสินว่าใครจะได้ครอบครองคัมภีร์เก้าอิม เขาเป็นผู้ชนะ แต่ก็เสียชีวิตหลังจากนั้นอีกไม่นาน ดังนั้นเชื่อว่าคนอื่นที่ฝึกวิชาต่อมาอีก 25 ปี น่าจะแซงเค้าไปหมดแล้ว


6. คิ้วโชยยิ่ม แม้ว่าจะซุ่มฝึกฝีมือมากว่า 20 ปี และไม่ได้ไปร่วมประลองครั้งแรก แต่เชื่อลึกๆว่าฝีมือยังเทียบเคียงอันดับ 1-5 ที่จัดไปแล้วไม่ได้

7. ก๊วยเจ๋ง มีการพัฒนาไปอย่างมาก รวมถึงได้ฝึกคัมภีร์เก้าอิมอีกด้วย แต่เชื่อว่าเวลาแค่ 2 ปี หลังออกมาจากมองโกล แม้ว่าจะมีพื้นฐานด้านร่างกายที่แข็งแรง และกำลังภายในที่ฝึกมาก่อนหน้า แต่น่าจะถือเป็นอันดับท้ายๆ เมื่อเทียบกับยอดฝีมือคนอื่น ผมดูในตอนท้ายเหมือนฝีมือจะเทียบชั้นกับอั้งชิกกงและอึ้งเอี๊ยซือ แต่ก่อนหน้าไม่นานยังถูกอ้าวเอี๊ยงฮงจับอยู่เลย เชื่อว่ายังแพ้คนอื่นอยู่ครับ

ไม่มีความคิดเห็น: