วันเสาร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

มะเร็ง สัญญาณร้าย 2

วันนี้อยู่ร้านล้างรถอีกแล้ว มาว่าต่อเรื่องมะเร็ง หลังจากทำการผ่าตัด สิ่งที่ต้องลุ้นระทึกต่อไป ขณะเดียวกันกับการพักฟื้นหลังจากผ่าตัดใหญ่ก็คือ ผลชิ้นเนื้อ ที่ผลชิ้นเนื้อสำคัญมาก เพราะมันจะบอกถึงแผนการรักษา รวมทั้งแนวทางการเป็นอยู่ของผมในอนาคตเลยทีเดียว สิ่งที่ผมอยากให้เป็นมากที่สุด แน่นอน คือการที่ผลชิ้นเนื้อออกมาเป็นปกติ หรือถ้ามันไม่ปกติก็ขอให้ไม่เกินระยะที่ 3 ซึ่งจะทำให้ผมไม่ต้องให้คีโมอีกแล้ว

ระหว่างที่รอ เพื่อนๆญาติๆก็พากันมาเยี่ยม มาให้กำลังใจ ทุกคน รวมทั้งหมอ ต่างเชื่อว่าผมไม่น่าจะเป็นเิกินระยะ 3 แต่แล้วแน่นอน ทุกอย่างย่อมไม่เป็นตามที่หวัง ผลชิ้นเนื้อแสดงว่าพบมะเร็งชนิด CA ระดับปานกลางในชิ้นเนื้อลำไส้ใหญ่ และพบว่ามันลุกลามเข้าไปในต่อมน้ำเหลือง 2 ต่อมจาก 23 ต่อมที่ขูดออกไปตรวจ

ผลแบบนี้แสดงว่า มะเร็งดังกล่าวเป็นระยะที่ 3 เป็นอย่างน้อย เพราะในความเป็นจริงคงเป็นการยากที่จะตรวจได้ทั้งร่างกายว่า เซลล์มะเร็งมันได้ลุกลามไปอวัยวะส่วนไหนบ้างแล้ว แต่อย่างไรก็ดีจากที่ทำการตรวจ MRI ก่อนที่จะทำการผ่าตัด ยังทำให้เชื่อว่าไม่พบสิ่งแปลกปลอม หรือการเติบโตแบบผิดปกติที่อวัยวะอื่นในช่องท้อง เช่น ตับ หรือ ตับอ่อน (ซึ่งถ้าเป็นจะอันตรายมากๆ)

ผมถามถึงแผนการรักษาของแพทย์ในทันที หมอบอกว่าผมต้องเข้ารับการรักษาโดยวิธีเคมีบำบัดต่อไป ซึ่งวิธีที่ผมเลือกจะเป็นการฉีดยาร่วมกับการกินยา โดยการให้เคมีบำบัดสำหรับมะเร็งลำไส้ใหญ่จะให้ 8 ชุด ชุดละ 3 อาทิตย์ รวมทั้งสิ้น 6 เดือน ซึ่งผมได้ย้ำกับแพทย์ถึงตัวยาที่จะใช้ว่าขอเป็นอย่างที่ดีที่สุด โดยไม่ต้องห่วงเรื่องค่าใช้จ่าย ตามที่เพื่อนแนะนำมา ด้วยเหตุผลที่ว่ายาที่ดีกว่าจะทำให้การทำลายเฉพาะที่เป็นไปได้ดีกว่า และเกิดอาการแพ้น้อยกว่านั่นเอง
และยาที่หมอเลือกก็คือ Eloxatin ยาที่ผมคงต้องจำชื่อมันไปอีกนาน (เพราะแพงเหลือเกิน และภายหลังเริ่มเสียดายเงินหลังจากที่รู้ว่ายาดังกล่าวไม่สามารถใช้สิทธิประกันสังคมได้)

มาถึงตอนนี้ผมกำลังจะเข้าการให้คีโมชุดที่ 3 ในวันจันทร์นี้ นึกถึงแล้วก็เบื่อเหลือเกิน เพราะทุกครั้งที่ให้ยาเคมีนั้นจะเกิดอาการข้างเคียงกับตัวผม อย่างเช่นการชาตามตัว การปวดแขนขา การเวียนหัวมึนงง การไม่อยากอาหาร และคลื่นไส้อาเจียร แม้จะเป็นอาการไม่รุนแรงนัก แต่ผมว่าคุณภาพชีวิตของคนที่รักษามะเร็งนั้นไม่ดีนัก แม้ในปัจจุบันการแพทย์จะพัฒนาไปมมากแล้ว แต่ผู้ป่วยมะเร็งอย่างผมยังต้องทนอยู่ในสภาพแบบนี้ถึง 6 เดือน

เพื่อนคนนึง บอกให้ผมอยู่กับมัน เพราะยังไงก็ต้องทำ พี่คนนึงบอกให้ผมทน แกเป็นกำลังใจให้ และสาวคนหนึ่งบอกให้ผมสู้เพื่ออนาคตที่เหลืออยู่ พ่อแม่ไม่ได้พูดอะไรมากนัก แต่ก็เป็นคนพาไปโรงพยาบาล ดูแลเรื่องค่าใช้จ่าย และทุกเรื่องของผม ยังไง ก็สู้อยู่แล้วละ









ขอบคุณครับทุกคน

1 ความคิดเห็น:

Miss.Chaba กล่าวว่า...

สู้ๆๆ นะคะ จะคอยเป็นกำลังใจให้คะ แต่ว่าร้อยคำปลอบโยน พันคำกำลังใจ ก็ไม่เท่ากับ สิ่งที่เกิดจากตนเอง "ขอพลังจงเกิดแด่ตัวท่านนะคะ"
แล้วเขียนมาอีกนะคะ จะติดตามผลงานคะ >_<"