วันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2551

คุณมีส่วนกับภาวะโรคร้อนแค่ไหน??

ทุกวันนี้ภาวะโรคร้อน (Global Warming) ถือเป็นปัญหาทางสิ่งแวดล้อมที่ผู้คนเริ่มหันมาให้ความสำคัญกันอย่างกว้างขวาง จนกระทั่งเรื่องดังกล่าวกลายเป็นหนังสือที่ขายดีระดับโลกและกำลังจะถูกนำมาสร้างเป็นหนัง อย่างเรื่อง “The Inconvenient Truth” ความหมายของภาวะโรคร้อนหมายถึง ปรากฏการณ์การเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิบริเวณพื้นผิวโลกอย่างมาก ซึ่งล่าสุดคณะกรรมการระหว่างตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศระหว่างประเทศ (Intergovernmental Panel on Climate Change, IPCC) ได้มีการสรุปอย่างเป็นทางการว่าการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิดังกล่าวโดยเฉพาะตั้งแต่กลางศตวรรษที่ 20 นั้นน่าจะมีสาเหตุหลักมาจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของมนุษย์ ข้อสรุปดังกล่าวถูกสนับสนุนโดยกลุ่มนักวิทยาศาสตร์อย่างน้อย 30 กลุ่ม รวมทั้งนักวิทยาศาสตร์ของประเทศอุตสาหกรรมหลักของโลก แม้ยังมีนักวิทยาศาสตร์บางคนที่ยังไม่เห็นด้วย

ผลของภาวะโรคร้อนมีผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อมนุษยชาติ อุณหภูมิที่สูงขึ้นทำให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้น ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของรูปแบบฝนและฤดูกาล นอกจากนั้นภาวะโรคร้อนยังมีผลต่อการออกดอกออกผลของพืชพรรณ เส้นทางและรูปแบบการค้าขาย รวมทั้งยังอาจทำให้สัตว์บางชนิดสูญพันธ์ไปจากโลก ผลกระทบต่างๆเหล่านี้ทำให้ประเทศส่วนใหญ่ในโลกตกลงเซ็นรับรองสนธิสัญญาเกียวโต (Kyoto Protocal) โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยมีความหวังว่าจะสามารถลดหรือเปลี่ยนแปลงการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิและผลที่จะตามมาในอนาคตได้

พวกเราทุกคนมีส่วนทำให้โรคร้อนจากกิจกรรมต่างๆในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นการขับรถไปที่ทำงาน การเปิดโทรทัศน์ดูในตอนเช้า หรือการทำอาหารในมื้อต่างๆ ซึ่งกิจกรรมต่างๆเหล่านี้สามารถก่อให้เกิดคาร์บอนไดออกไซด์ อันเป็นก๊าซสำคัญที่เป็นสาเหตุของภาวะโรคร้อน คำถามอย่างหนึ่งที่ผู้คนมักจะละเลยกันก็คือเรามีส่วนที่ก่อให้เกิดคาร์บอนไดออกไซด์มากเพียงไร ซึ่งหากเรารู้ตัวเลขดังกล่าวก็จะทำให้เราตระหนักถึงกิจกรรมต่างๆที่ส่งผลต่อภาวะโรคร้อนได้ดีมากยิ่งขึ้น

ปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดขึ้นจากแต่ละคนนั้นสามารถเกิดขึ้นทั้งจากทางตรงและทางอ้อม ในบทความนี้จะทำการคำนวณเฉพาะคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดขึ้นทางตรง ซึ่งแต่ละคนสามารถเพิ่มหรือลดปริมาณการใช้ได้ เท่านั้น ส่วนปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ทางอ้อมอันเกิดจากภาคอุตสาหกรรม การค้า และบริการ นั้นจะไม่รวมในการคำนวณนี้ ซึ่งจากการพิจารณาพบว่าคาร์บอนไดออกไซด์ทางตรงเกิดขึ้นจากกิจกรรมหลัก 3 กิจกรรม อันได้แก่ การเดินทาง การใช้ไฟฟ้า และการหุงต้ม โดยรายละเอียดสำหรับการ
คำนวณแต่ละอย่างมีดังนี้

1. การเดินทาง การเดินทางนั้นมีอยู่ด้วยกันหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว รถมอเตอร์ไซด์ รถสาธารณะ หรือแม้กระทั้งการเดินทางด้วยเรือและเครื่องบิน ซึ่งการเดินทางแต่ละประเภทจะมีปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยออกมาแตกต่างกัน
a. รถยนต์ส่วนตัว ปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์จะขึ้นกับประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ ซึ่งแตกต่างกันไปตามรุ่นและอายุของรถยนต์แต่ละคัน โดยทั่วไปแล้วข้อมูลรถยนต์ส่วนตัวมักจะถูกเก็บในรูปแบบของน้ำมันที่ใช้ไป โดยปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์สามารถคำนวณออกมาเป็นกิโลกรัมต่อลิตรที่ 1.94 และ 2.22 สำหรับน้ำมันเบนซินและดีเซลตามลำดับ
b. มอเตอร์ไซด์ โดยทั่วไปมักเก็บข้อมูลเป็นระยะทาง และคำนวณปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 0.08 กิโลกรัมต่อกิโลเมตร
c. แท็กซี่ โดยทั่วไปมักเก็บข้อมูลเป็นระยะทาง และคำนวณปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 0.25 กิโลกรัมต่อกิโลเมตร
d. รถโดยสาร โดยทั่วไปมักเก็บข้อมูลเป็นระยะทาง และคำนวณปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 0.20 กิโลกรัมต่อกิโลเมตรต่อคน
e. เครื่องบิน โดยทั่วไปมักเก็บข้อมูลเป็นระยะทาง ประมาณคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 0.12 กิโลกรัมต่อกิโลเมตรต่อคน


2. การใช้ไฟฟ้า สำหรับปริมาณการใช้ไฟในประเทศไทยนั้นใช้หน่วยเป็นหน่วย (unit) ซึ่ง 1 หน่วย หมายถึง ปริมาณไฟฟ้าขนาด 1 กิโลวัตต์เป็นเวลา 1 ชั่วโมง ซึ่งปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยออกมาต่อ unit นั้นจะคำนวณมาจากวัตถุดิบและกระบวนการของการผลิตไฟฟ้า ซึ่งในที่นี้จะใช้ค่าประมาณ 0.43 กิโลกรัมต่อหน่วย

3. การหุงต้ม สำหรับในประเทศไทยนั้น โดยทั่วไปเราจะใช้เชื้อเพลิงก๊าซหุงต้มเป็นถังที่เรียกว่า LPG :ซึ่งจะประมาณปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 1.51 กิโลกรัมต่อก๊าซ 1 ลิตร
สำหรับการคำนวณปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ จะต้องเริ่มต้นจากการเก็บข้อมูลในชีวิตประจำวัน ทั้งในส่วนของการเดินทาง การใช้ไฟฟ้า และการหุงต้ม แล้วทำการคูณด้วยค่าสัมประสิทธิ์การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในแต่ละตัว ยกตัวอย่างการคำนวณได้ตามตารางต่อไปนี้

ผลการคำนวณสามารถเทียบว่าคุณมีส่วนกับภาวะโรคร้อนมากแค่ไหน ให้เปรียบเทียบปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ค่าเฉลี่ยตามตารางต่อไปนี้ (ค่าดังกล่าวนำมาจากค่าเฉลี่ยของคนในอเมริกา [1])

ปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ (กิโลกรัมต่อเดือน) การมีส่วนต่อภาวะโรคร้อน
<190 น้อยมาก
190-380 น้อย
380-760 ปานกลาง
760-950 มาก
>950 สูงมาก

การคำนวณระดับการมีส่วนต่อสภาวะโรคร้อนเป็นแนวทางหนึ่งที่สามารถสร้างจิตสำนึกให้กับมนุษย์ ซึ่งถือเป็นสาเหตุสำคัญที่สุดของภาวะโรคร้อน และยังทำให้โลกใบนี้ยังคงเป็นโลกที่น่าอยู่ต่อไปสำหรับมนุษยชาติ

เอกสารอ้างอิง
1. http://www.climatecrisis.net/takeaction/carboncalculator/
2. http://www.nativeenergy.com/
3. The National Energy Foundation (www.natenergy.org/)
4. The Department for the Environment, Food and Rural Affairs (www.defra.gov.uk/)
5. The National Office of Statistics (www.statistics.gov.uk/)
6. http://en.wikipedia.org/

ไม่มีความคิดเห็น: