วันอังคารที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

เรื่องบนเตียง

เตียง ถือเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นแรกๆของบ้านที่ทุกคนต้องนึกถึง เชื่อว่าสำหรับคนซื้อบ้านทุกคน หากใครไม่มีเตียงเก่าอยู่แล้วก็คงต้องวางแผนซื้อเตียงกันอยู่แน่นอน ผมก็เป็นคนนึงที่คิดจะซื้อเตียงสวยๆ ดีๆ สักอัน เมื่อตอนที่ตัดสินใจซื้อบ้าน แต่การเลือกเตียงดีๆสักอันไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะข้อมูลที่เกี่ยวข้องมีเยอะครับ โดยเฉพาะเรื่องบนเตียง นั่นก็คือฟูกนั่นเอง
 
สำหรับวิธีในการเลือกเตียงและฟูกให้ตรงใจนั้นมีขั้นตอนในการเลือกง่ายๆ 3 ขั้นตอนได้แก่
(1) เลือกขนาดเตียงก่อน
(2) เลือกระบบฟูกที่จะใช้
(3) เลือกเตียง
 
I ขนาดเตียง
ในเรื่องของขนาดเตียงนั้น มันมีขนาดมาตรฐานอยู่แล้ว เพราะหากไม่มีขนาดมาตรฐานผู้ผลิตเตียงและผ้าปูที่นอนคงปวดหัวกันแน่นอน มาตรฐานเตียงจะแบ่งออกเป็น
(1) Picnic Bed ซึ่งมีขนาดกว้าง 2.5' (0.70 m) ยาว 6.5' (2.00 m)
(2) Single Bed ซึ่งมีขนาดกว้าง 3.5' (1.05 m) ยาว 6.5' (2.00 m)
(3) Queen size ซึ่งมีขนาดกว้าง 5' (1.50 m) ยาว 6.5' (2.00 m)
(4) King size ซึ่งมีขนาดกว้าง 6' (1.80 m) ยาว 6.5' (2.00 m)
เลือกขนาดเตียงให้เหมาะกับขนาดห้องจะดีที่สุดครับ โดยพื้นที่ว่างควรมีทางเดินขนาด 1.00 เมตรไว้ครับ
 
II ระบบฟูก
สำหรับฟูกนั้นทำหน้าที่อยู่ 2 อย่าง นั่นคือการรับน้ำหนัก (ไม่เกิดการยวบตัวขณะนอน) และการรองรับร่างกาย (คลายแรงกดทับเพื่อให้เลือดไหลเวียนสะดวก) เท่าที่ศึกษาและรวบรวมข้อมูลมา มีความเชื่อว่าฟูกที่ดีที่สุดและเป็นที่ยอมรับกันทั่วโลก ก็คือ เตียงน้ำ โดยน้ำจะทำหน้าที่ทั้งเป็นตัวรับน้ำหนักและรองรับร่างกาย เพราะเตียงน้ำจะเปลี่ยนแปลงสภาพการรองรับตามผู้นอนแต่ละคนที่มีโครงสร้างร่างกายและน้ำหนักแตกต่างได้ทันที ทำให้โครงสร้างของร่างกายได้สมดุล แต่เตียงน้ำมีราคาค่อนแพงเมื่อเทียบกับเตียงชนิดอื่นๆ อีกทั้งต้องมีการบำรุงรักษาโดยการเติมน้ำยาเพื่อปรับสภาพน้ำให้มีความยืดหยุ่นทุกปี ถ้าใครจำได้จะพบว่าพระเอกในหนังเรื่อง Music&Lyrics ก็นอนเตียงน้ำเหมือนกัน หรือใครอยากลองนอนเตียงน้ำดูผมก็แนะนำให้ลองไปที่ร้าน Bed Studio แถว ถ.งามวงศ์วานครับ (www.mybedstudio.com)
 
เตียงสปริงถือเป็นระบบการรองรับปัจจุบันที่มีความนิยมสูงสุด มีมากมายหลายยี่ห้อและหลายแบ่งแยกย่อยได้อีกเป็นหลายระบบ ระบบเตียงสปริงนั้นจะประกอบด้วย สปริงและวัสดุรองรับ โดยสปริงจะทำหน้าที่รับน้ำหนัก ขณะที่วัสดุรองรับก็จะทำหน้าที่รองรับร่างกาย การที่เตียงสปริงมีขายมากมายในท้องตลาดก็ด้วยส่วนประกอบที่ต่างกันของสปริงและวัสดุรองรับนั่นเอง ซึ่งโดยทั่วไปเราจะแบ่งแยกเตียงสปริงตามระบบของสปริง ไม่ว่าจะเป็น Double Offset Spring, Posture Spring, หรือ Pocket Spring (อ่านรายละเอียดเพิ่มได้จาก www.naturefoam.com) ซึ่งระบบแต่ละอย่างก็จะมีพัฒนาการมาเรื่อยๆ แต่ปัจจุบันที่เค้าว่าดีกันก็จะเป็น Pocket Spring ซึ่งได้เปรียบในเรื่องการแยกอิสระของสปริงแต่ละลูกทำให้รับน้ำหนักแต่ละอันได้ดี เตียงไม่ยุบตัว และเวลาพลิกตัวก็ไม่กวนคนข้างๆ และที่นิยมอีกแบบที่แยกเป็น Zone จากการศึกษาว่าในส่วนสะโพกของคนจะมีน้ำหนักสูงสุดตอนนอน จึงมีการคิดเพิ่มจำนวนสปริงในบริเวณนี้ และมีการออกแบบแบ่งเป็น zone ไว้อีกหลายแบบ 
 
อนึ่ง สิ่งหนึ่งที่อยากให้จำใส่ใจทุกครั้งในการเลือกเตียงสปริง ก็คือ "The size does not matter" ซึ่งหมายความว่าขนาด (ของสปริงและชั้นรองรับ) ไม่ใช่สิ่งเดียวที่จะตัดสินว่าเตียงนั้นดีหรือไม่ดี สิ่งที่สำคัญกว่าจริงๆก็คือ คุณภาพมากกว่า นั่นหมายความว่าการที่เตียงที่ใช้สปริงขนาดใหญ่กว่า ไม่ได้แปลว่าดีกว่า แต่เตียงที่ดีกว่าควรจะใช้สปริงที่มีคุณภาพสูงกว่า ซึ่งโดยทั่วไปก็จะใช้สปริงที่มีการยืดหดตัวดี ซึ่ง (โดยทั่วไปอีกนั่นแหละ) มักจะต้องมีขนาดเล็ก จึงทำให้ต้องออกแบบให้ใช้สปริงจำนวนมาก เพื่อรองรับน้ำหนักที่เท่ากัน และเช่นเดียวกันขนาดของชั้นรองรับที่หนากว่าก็ไม่ได้แปลว่าต้องดีกว่าเสมอไป คงต้องขึ้นกับคุณภาพของชั้นรองรับด้วย และมีคนเคยบอกว่า Slumberland และ Sealy ถือเป็นเตียงที่ดีที่สุด แต่อันนี้ไม่รับประกันนะครับ ^-^
 
ปัจจุบันเตียงยางพาราถือเป็นระบบเตียงแนวใหม่ที่กำลังมาแรงในแง่ของเตียงสุขภาพคล้ายกับเตียงน้ำ เพราะยางพารามีความยืดหยุ่นที่ดีทำให้ใช้รับน้ำหนักได้อย่างเหมาะสม อีกทั้งมีความนุ่มซึ่งถือว่าเป็นวัสดุรองรับได้ดีเช่นกัน แต่ฟูกที่ทำจากยางพารา 100% จะมีราคาแพงมากและมีน้ำหนักสูงมาก ปัจจุบันมีผู้ผลิตปรับใช้วัสดุอื่นๆมาใช้ ซึ่งผมว่า website ที่ให้ข้อมูลเรื่องเตียงยางพาราได้ดีก็คือ www.naturefoam.com นอกจากนี้ยังมีการไปใช้เป็นส่วนประกอบของเตียงสปริงในแง่ของวัสดุรองรับในเตียงอีกหลายยี่ห้อ รวมทั้งซื้อแยกเป็นเตียงรองนอนทับฟูกอีกที (Topper) อีกด้วย
 
นอกจากเตียงประเภทนี้ก็ยังมีเตียงอื่นๆอีก เช่น เตียงใยมะพร้าว ฯลฯ แต่เตียงพวกนี้มักมีราคาถูกและมักใช้กันเฉพาะในหอพักเท่านั้นเอง เชื่อว่าถ้าใครซื้อบ้านใหม่คงจะไม่เลือกเตียงพวกนี้แน่นอน (ถ้าเลือกได้)
 
III เตียง
ในส่วนของเตียงหรือที่นอนนั้นก็ถือว่ามีความสำคัญไม่แพ้กัน โดยแม้ที่นอนจะสำคัญสู้ฟูกไม่ได้ในเรื่องความสบายของการนอน แต่ที่นอนก็มีส่วนในการช่วยให้ฟูกทำงานได้ดีด้วย อีกอย่างบ้านจะสวยหรือไม่สวยที่นอนสำคัญกว่าฟูกแน่นอน และเชื่อว่าประเด็นหลังจะเป็นประเด็นหลักตัดสินในการเลือกเตียงของคนส่วนใหญ่ด้วย แต่อย่างไรก็อย่างลืมนึกถึงประเด็นแรกด้วยครับ
 
โครงสร้างของเตียงโดยทั่วๆไปจะแบ่งเป็น 3 แบบ ก็คือแบบกระดูกงู แบบคาน 3 ชิ้น และแบบตีไม้จริงแผ่นเรียบ โดยถ้าใครเลือกใช้เตียงน้ำเรื่องของความแข็งแรงของเตียงมีความสำคัญมาก เพราะฟูกดังกล่าวจะมีน้ำหนักสูงมาก ดังนั้นเตียงจึงต้องมีความแข็งแรงและโดยทั่วไปจะเป็นไม้จริงแผ่นเรียบหรือไม่วางไว้บนพื้นได้เลย ขณะที่ถ้าเป็นยางพารานั้นสามารถเลือกใช้ระบบเตียงแบบกระดูกงูเพราะช่วยให้เกิดความยืดหยุ่นได้ดีขึ้น ขณะที่เตียงสปริงแนะนำให้ใช้เป็นระบบคาน 3 ชิ้น เพราะระบบสปริงที่ออกแบบมามักจะออกแบบบนพื้นแผ่นเรียบ ถ้าวางบนกระดูกงูก็จะนิ่มไปอีกหน่อย แต่อย่างไรก็ตามในส่วนของเตียงยางพาราหรือเตียงสปริงไม่ serious มากครับ พอจะเปลี่ยนแปลงได้
 
ในเรื่องของความสวยงามของเตียงอันนี้คงต้องหาตัวอย่างดูครับ ผมถือโอกาสแนบรูปที่เคยดูๆไว้มาให้ด้วยครับ เผื่อตัดสินใจได้ แต่ระวังเรื่องราคาด้วยครับ เตียงสวยๆแปลกๆก็มักมีราคาที่แปลกๆด้วย  ไปดูที่ http://www.oknation.net/blog/parmary/2008/06/26/entry-1 และหาเตียงของ Loto Mobili ครับ พอดี Website ตอนนี้ดูมันหายไป ลองหาเอาเองครับ 
 
สุดท้ายในการเลือกเตียงคงไม่มีอะไรดีกว่าการไปดูและการลองนอน (สัก 15 นาที) ด้วยตัวเอง (และคนที่จะนอนด้วย) และอยากบอกว่าถ้ามีงบเหลือเฟือก็ให้เลือกเตียงที่ดีๆครับ เพราะเตียงจะอยู่ไปกับเราอีกอย่างน้อย 8 ปี แน่นอนครับ (ถ้าไม่ทะเลาะกันจนขาดไปซะก่อน) โชคดี...

ไม่มีความคิดเห็น: